11 ต.ค. – กรมอุตุนิยมวิทยา เฝ้าระวังสถานการณ์พายุ “คมปาซุ” ที่คาดว่าอาจขึ้นฝั่งเวียดนามในวันที่ 13 – 14 ตุลาคม คาดอาจทำให้ภาคอีสานเกือบทั้งหมดมีฝนตก
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงสถานการณ์พายุในระยะนี้ว่า พายุ “ไลออนร็อก” อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ซึ่งเมื่อคืนทำให้ภาคอีสานตอนบนได้รับผลกระทบเกิดฝนตก ทั้งนครพนม หนองคาย บึงกาฬ และสกลนคร แต่ปริมาณฝนไม่มากนัก เพราะอิทธิพลของความกดอากาศสูงไปลดความรุนแรง อย่างไรก็ตาม คาดว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปทางเหนือ ทำให้น่าน พะเยา เชียงใหม่ และเชียงราย เกิดฝนตก จากนั้นในช่วงบ่ายจะเคลื่อนตัวไปที่แม่ฮ่องสอน และตาก ซึ่งจะส่งผลกระทบไปจนถึงวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าวันที่ 13-14 ตุลาคม พายุโซนร้อน “คมปาซุ” ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของฟิลิปินส์ จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เวียดนาม แม้อาจจะอ่อนกำลังลงหลังขึ้นฝั่ง แต่จะส่งผลให้เกิดฝนตกในภาคอีสานเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะจังหวัดลุ่มน้ำชีที่จะได้รับผลกระทบ ซึ่งช่วงเย็นวันที่ 14 ตุลาคม จะเคลื่อนตัวมายังภาคกลางของไทย และในวันที่ 15 ตุลาคมคาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ส่วนพายุลูกที่ 3 ที่มีกระแสข่าวว่าอาจเข้ามาในไทยนั้น ขณะนี้เป็นหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวในทะเลจีนใต้และยังไม่มีการตั้งชื่อ คาดว่ามีโอกาสจะเคลื่อนตัวขึ้นไปทางเกาะไหหลำและตอนใต้ของจีน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 ตุลาคม ไทยอาจได้รับผลกระทบแต่คงไม่มากนัก ก่อนที่ในช่วง 1-2 วัน สถานการณ์จะดีขึ้น
ขณะที่วันนี้ (11 ต.ค.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สกลนคร (อ.เมือง) จ.จันทบุรี (อ.เมือง, มะขาม, ขลุง, โป่งน้ำร้อน) และ จ.ตราด (อ.เขาสมิง, บ่อไร่, คลองใหญ่)
นอกจากนี้ยังแจ้งเตือนพื้นที่ 23 จังหวัดให้ระวังน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขัง ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือตอนล่าง, ภาคอีสาน และภาคกลางอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย