fbpx

เร่งสูบน้ำท่วมนาข้าว พื้นที่เกษตร

ภูมิภาค 14 ต.ค.- แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลง แต่หลายพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบหนักจากน้ำที่ท่วมขัง


องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมชลประทาน ระดมเครื่องสูบน้ำติดตั้งตามจุดต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำเน่าที่ท่วมขังตามบ้านเรือน และพื้นที่รเกษตร ทั้งนาข้าว พืชไร่ พืชผัก และสวนผลไม้ กว่า 24,000 ไร่ ใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยน้ำที่ท่วมขังตามบ้านเรือนใช้วิธีสูบน้ำข้ามถนน ระบายลงคลองชลประทาน ส่วนน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรใช้วิธีสูบน้ำระบายผ่านประตูระบายน้ำบางเสวย และประตูระบายน้ำบางสารวัตรลงแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยา ยังมีปริมาณมาก ทำให้น้ำที่ระบายออกจากพื้นที่การเกษตรลดลงอย่างช้าๆ ชาวบ้านอีกกว่า 4,300 ครัวเรือน ยังเดือดร้อน ชาวนา อ.สรรพยา ต่างหมดหวังที่จะกู้คืนนาข้าวจากน้ำที่ท่วมขังนาน 2 สัปดาห์ เงินที่ลงทุนปลูกข้าวไปคนละหลายหมื่นบาทได้จมหายไปกับน้ำ ตอนนี้ได้แต่รอให้น้ำแห้งเพื่อปลูกรอบใหม่ แต่ก็ไม่รู้เมื่อไหร่

ชาวบ้านเป็นโรคน้ำกัดเท้า หลังน้ำท่วมนานนับเดือน


ชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากถูกน้ำท่วมเป็นเดือน แม้วันนี้น้ำจะลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในหมู่บ้าน และถนนเข้าหมู่บ้าน และบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำลพบุรี และน้ำเริ่มเน่าเสีย ชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมครั้งนี้ ขึ้นและลงเร็ว ตอนนี้ลำบากมาก ใช้เรือไม่ได้ ต้องเดินลุยน้ำ และเป็นโรคน้ำกัดเท้ากันหลายคนแล้ว อยากได้ยาแก้น้ำกัดเท้าและถุงยังชีพ เนื่องจากออกไปตลาดไม่ได้ และไม่มีรถขายกับข้าวเข้ามาขาย คาดต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกไม่น้อยกว่า 1 เดือน

เกิดดินสไลด์ริมตลิ่งแม่น้ำป่าสัก บ้าน-กุฏิพระพังเสียหาย

ที่ จ.สระบุรี เกิดดินสไลด์ ตามแนวตลิ่งแม่น้ำป่าสัก หลายพื้นที่ จุดแรกที่พื้นที่ ม.1 ต.นาโฉง อ.เมือง ได้เกิดดินสไลด์ จนบ้านทรุดตัวพังลงมา ซึ่งเป็นบ้านของนาง สมคิด เรือนไทสง และลูกชายที่ปลูกติดกัน ใกล้กัน เจ้าของบ้าน ร้องเป็นเพราะชลประทานปล่อยน้ำเร็วเกินไป จนทำให้เกิดดินสไลด์ เนื่องจากตอนเช้าเห็นว่าน้ำยังไม่ลงเต็มที่ ต่อมาไม่นานน้ำได้ลดลงอย่างรวดเร็วเป็นเมตร เนื่องจากดินอุ้มน้ำจึงเกิดการทรุดตัวของดิน ขณะที่บริเวณแนวตลิ่งของวัดหงส์ดาราวาส ก็เกิดแนวตลิ่งพังทรุดตัวลงมา ทำใต้ยางนาอายุกว่า 100 ปี ล้มโค่นลงมา 2 ต้น สิ่งปลูกสร้างภายในวัดแนวริมตลิ่งได้รับความเสียหาย ส่วนดินที่อยู่บริเวณรอบๆ ก็มีท่าทีที่จะสไลด์อยู่ตลอดเวลา


ส่วนที่วัดบ้านกอก ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ กุฏิพระที่ปลูกอยู่แนวริมตลิ่ง ก็ได้ทรุดตัวลงมา จำนวน 5 หลัง รวมไปถึงกุฏิเจ้าอาวาสด้วย พังถล่มลงมาด้วย ส่งผลให้พระต้องหนีตายจ้าละหวั่น หนึ่งในนั้นมีพระสงฆ์ที่อาพาธอยู่ 1 รูป ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก มีแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่เร่งนำส่ง รพ.สระบุรี ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจความเสียหาย เพิ่มเติม ส่วนชาวบ้านก็ช่วยกันดูแลพระสงฆ์

น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย

จ.จันทบุรี พื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่โดยรอบในเขตเทศบาลจันทบุรี ระดับน้ำเริ่มลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ ประชาชนเริ่มเข้าเก็บข้าวของ ทำความสะอาด บ้านเรือน ร้านค้า และฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำ ส่วนบริเวณชุมชนย่อยเนิน FM ติดกับโรงฆ่าสัตว์ มีประชาชนราว 300 หลังคาเรือน ยังมีน้ำท่วมถนนและภายในชุมชน เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ตลอดจนสถานที่หน่วยงานราชการ ยังมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 ซม. ภาพรวมทั้งจังหวัดพบว่าทุกพื้นที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้ว

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ที่สะพานวัดจันทนาราม อำเภอเมือง ยังทรงตัว โดยวัดระดับน้ำอยู่ที่ 3.10 เมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติ 0.35 เมตร และมีแนวโน้มลดลง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมามีการเปลี่ยนธงสัญลักษณ์เป็นสีแดง ขณะที่ประชาชนที่อาศัยย่านชุมชนริมน้ำจันทบูร ริมแม่น้ำจันทบุรี ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เนื่องจากเมื่อคืนมีการแจ้งเตือนให้อพยพภายใน 2 ชั่วโมง แต่หลายคนยังไม่อพยพ

ลำน้ำชีเริ่มทรงตัว เร่งผลักดันน้ำออก

ต่อกันที่ภาคอีสาน จ.มหาสารคาม น้ำชีที่ไหลมาจากอำเภอโกสุมพิสัย มาถึง อ.กันทรวิชัย แล้ว โดยที่บ้านกุดหัวช้าง ตำบลขามเรียง น้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง ชาวบ้านและฝ่ายปกครองช่วยกันทำแนวกระสอบทรายไว้ริมถนน แต่มวลน้ำชีไหลมาแรงและบ่าข้ามท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เอ่อท่วมล้อมรอบหมู่บ้านเป็นเกาะไปแล้ว ต้องอพยพวัว กว่า 50 ตัว ขึ้นมาเลี้ยงไว้บนที่สูง ด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้านสัตว์เลี้ยงกำลังขาดแคลนอาหาร เพราะหญ้าที่ปลูกถูกน้ำท่วม และถนนตัดขาดเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน แม้ปศุสัตว์จะนำมาหญ้ามามอบให้ก็ไม่เพียงพอ ด้านสำนักงานชลประทานเขต 6 ขอนแก่น ได้ติดตั้งเครื่องผนักดันน้ำที่หน้าเขื่อนวังยางเพิ่มเป็น 72 ตัว จากที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ 16 ตัว เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่

“คมปาซุ” เริ่มส่งผลกระทบแล้ว

อิทธิพลพายุ “คมปาซุ” ส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนัก ติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน บนถนนวารีราชเดช ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ใจกลางอำเภอกุดชุม จ.ยโสธร น้ำท่วมสูง 30-50 เซนติเมตร ระยะทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ทำให้การสัญจรของรถทุกชนิด ระหว่างตัวอำเภอกุดชุม ไปยังอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร สัญจรไปมาลำบาก เทศบาลอำเภอกุดชุม ต้องระดม เร่งสูบน้ำออกจากผิวถนนเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้การสัญจรกลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว

ขณะที่บ้านเรือนริมถนนตั้งแต่หน้าร้านลำโขงหมูกระทะถึงหน้าร้านศรีสมบัติการเกษตร ต้องเจอกับคลื่นน้ำ ยามรถวิ่งผ่าน เหมือนกับคลื่นทะเล ขนาดใหญ่ กระแสน้ำไหลทะลักเข้าบ้านเรือนและห้างฯร้าน เดือดร้อนกันทั่วหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน