เร่งสูบน้ำท่วมนาข้าว พื้นที่เกษตร

ภูมิภาค 14 ต.ค.- แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลง แต่หลายพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบหนักจากน้ำที่ท่วมขัง


องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมชลประทาน ระดมเครื่องสูบน้ำติดตั้งตามจุดต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำเน่าที่ท่วมขังตามบ้านเรือน และพื้นที่รเกษตร ทั้งนาข้าว พืชไร่ พืชผัก และสวนผลไม้ กว่า 24,000 ไร่ ใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยน้ำที่ท่วมขังตามบ้านเรือนใช้วิธีสูบน้ำข้ามถนน ระบายลงคลองชลประทาน ส่วนน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรใช้วิธีสูบน้ำระบายผ่านประตูระบายน้ำบางเสวย และประตูระบายน้ำบางสารวัตรลงแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยา ยังมีปริมาณมาก ทำให้น้ำที่ระบายออกจากพื้นที่การเกษตรลดลงอย่างช้าๆ ชาวบ้านอีกกว่า 4,300 ครัวเรือน ยังเดือดร้อน ชาวนา อ.สรรพยา ต่างหมดหวังที่จะกู้คืนนาข้าวจากน้ำที่ท่วมขังนาน 2 สัปดาห์ เงินที่ลงทุนปลูกข้าวไปคนละหลายหมื่นบาทได้จมหายไปกับน้ำ ตอนนี้ได้แต่รอให้น้ำแห้งเพื่อปลูกรอบใหม่ แต่ก็ไม่รู้เมื่อไหร่

ชาวบ้านเป็นโรคน้ำกัดเท้า หลังน้ำท่วมนานนับเดือน


ชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากถูกน้ำท่วมเป็นเดือน แม้วันนี้น้ำจะลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในหมู่บ้าน และถนนเข้าหมู่บ้าน และบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำลพบุรี และน้ำเริ่มเน่าเสีย ชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมครั้งนี้ ขึ้นและลงเร็ว ตอนนี้ลำบากมาก ใช้เรือไม่ได้ ต้องเดินลุยน้ำ และเป็นโรคน้ำกัดเท้ากันหลายคนแล้ว อยากได้ยาแก้น้ำกัดเท้าและถุงยังชีพ เนื่องจากออกไปตลาดไม่ได้ และไม่มีรถขายกับข้าวเข้ามาขาย คาดต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกไม่น้อยกว่า 1 เดือน

เกิดดินสไลด์ริมตลิ่งแม่น้ำป่าสัก บ้าน-กุฏิพระพังเสียหาย

ที่ จ.สระบุรี เกิดดินสไลด์ ตามแนวตลิ่งแม่น้ำป่าสัก หลายพื้นที่ จุดแรกที่พื้นที่ ม.1 ต.นาโฉง อ.เมือง ได้เกิดดินสไลด์ จนบ้านทรุดตัวพังลงมา ซึ่งเป็นบ้านของนาง สมคิด เรือนไทสง และลูกชายที่ปลูกติดกัน ใกล้กัน เจ้าของบ้าน ร้องเป็นเพราะชลประทานปล่อยน้ำเร็วเกินไป จนทำให้เกิดดินสไลด์ เนื่องจากตอนเช้าเห็นว่าน้ำยังไม่ลงเต็มที่ ต่อมาไม่นานน้ำได้ลดลงอย่างรวดเร็วเป็นเมตร เนื่องจากดินอุ้มน้ำจึงเกิดการทรุดตัวของดิน ขณะที่บริเวณแนวตลิ่งของวัดหงส์ดาราวาส ก็เกิดแนวตลิ่งพังทรุดตัวลงมา ทำใต้ยางนาอายุกว่า 100 ปี ล้มโค่นลงมา 2 ต้น สิ่งปลูกสร้างภายในวัดแนวริมตลิ่งได้รับความเสียหาย ส่วนดินที่อยู่บริเวณรอบๆ ก็มีท่าทีที่จะสไลด์อยู่ตลอดเวลา


ส่วนที่วัดบ้านกอก ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ กุฏิพระที่ปลูกอยู่แนวริมตลิ่ง ก็ได้ทรุดตัวลงมา จำนวน 5 หลัง รวมไปถึงกุฏิเจ้าอาวาสด้วย พังถล่มลงมาด้วย ส่งผลให้พระต้องหนีตายจ้าละหวั่น หนึ่งในนั้นมีพระสงฆ์ที่อาพาธอยู่ 1 รูป ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก มีแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่เร่งนำส่ง รพ.สระบุรี ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจความเสียหาย เพิ่มเติม ส่วนชาวบ้านก็ช่วยกันดูแลพระสงฆ์

น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเริ่มคลี่คลาย

จ.จันทบุรี พื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่โดยรอบในเขตเทศบาลจันทบุรี ระดับน้ำเริ่มลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ ประชาชนเริ่มเข้าเก็บข้าวของ ทำความสะอาด บ้านเรือน ร้านค้า และฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำ ส่วนบริเวณชุมชนย่อยเนิน FM ติดกับโรงฆ่าสัตว์ มีประชาชนราว 300 หลังคาเรือน ยังมีน้ำท่วมถนนและภายในชุมชน เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ตลอดจนสถานที่หน่วยงานราชการ ยังมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 ซม. ภาพรวมทั้งจังหวัดพบว่าทุกพื้นที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติแล้ว

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ที่สะพานวัดจันทนาราม อำเภอเมือง ยังทรงตัว โดยวัดระดับน้ำอยู่ที่ 3.10 เมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติ 0.35 เมตร และมีแนวโน้มลดลง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมามีการเปลี่ยนธงสัญลักษณ์เป็นสีแดง ขณะที่ประชาชนที่อาศัยย่านชุมชนริมน้ำจันทบูร ริมแม่น้ำจันทบุรี ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เนื่องจากเมื่อคืนมีการแจ้งเตือนให้อพยพภายใน 2 ชั่วโมง แต่หลายคนยังไม่อพยพ

ลำน้ำชีเริ่มทรงตัว เร่งผลักดันน้ำออก

ต่อกันที่ภาคอีสาน จ.มหาสารคาม น้ำชีที่ไหลมาจากอำเภอโกสุมพิสัย มาถึง อ.กันทรวิชัย แล้ว โดยที่บ้านกุดหัวช้าง ตำบลขามเรียง น้ำท่วมสูงขึ้นต่อเนื่อง ชาวบ้านและฝ่ายปกครองช่วยกันทำแนวกระสอบทรายไว้ริมถนน แต่มวลน้ำชีไหลมาแรงและบ่าข้ามท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เอ่อท่วมล้อมรอบหมู่บ้านเป็นเกาะไปแล้ว ต้องอพยพวัว กว่า 50 ตัว ขึ้นมาเลี้ยงไว้บนที่สูง ด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้านสัตว์เลี้ยงกำลังขาดแคลนอาหาร เพราะหญ้าที่ปลูกถูกน้ำท่วม และถนนตัดขาดเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน แม้ปศุสัตว์จะนำมาหญ้ามามอบให้ก็ไม่เพียงพอ ด้านสำนักงานชลประทานเขต 6 ขอนแก่น ได้ติดตั้งเครื่องผนักดันน้ำที่หน้าเขื่อนวังยางเพิ่มเป็น 72 ตัว จากที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ 16 ตัว เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่

“คมปาซุ” เริ่มส่งผลกระทบแล้ว

อิทธิพลพายุ “คมปาซุ” ส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนัก ติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน บนถนนวารีราชเดช ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ใจกลางอำเภอกุดชุม จ.ยโสธร น้ำท่วมสูง 30-50 เซนติเมตร ระยะทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ทำให้การสัญจรของรถทุกชนิด ระหว่างตัวอำเภอกุดชุม ไปยังอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร สัญจรไปมาลำบาก เทศบาลอำเภอกุดชุม ต้องระดม เร่งสูบน้ำออกจากผิวถนนเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้การสัญจรกลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว

ขณะที่บ้านเรือนริมถนนตั้งแต่หน้าร้านลำโขงหมูกระทะถึงหน้าร้านศรีสมบัติการเกษตร ต้องเจอกับคลื่นน้ำ ยามรถวิ่งผ่าน เหมือนกับคลื่นทะเล ขนาดใหญ่ กระแสน้ำไหลทะลักเข้าบ้านเรือนและห้างฯร้าน เดือดร้อนกันทั่วหน้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]