กรุงเทพฯ 10 เม.ย.-“สุชาติ” รมว.แรงงาน กำชับโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมให้ความร่วมมือดูแลผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 อย่างเต็มที่
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่พบว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในจังหวัดพื้นที่สีแดง ซึ่งรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงวันหยุดเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ และเตรียมความพร้อมรองรับในทุกด้านหากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้กำชับโรงพยาบาลประกันสังคมให้ความร่วมมือดูแลผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงติดโควิด โดยออกประกาศกระทรวงแรงงานเพื่อเน้นย้ำมาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตน กรณีโรคโควิด-19 เพื่อให้โรงพยาบาลเอกชนในโครงการประกันสังคมเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งการตรวจคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงและจำนวนเตียงรองรับผู้ประกันตนป่วยโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ลดความเดือดร้อนของประชาชน โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลเอกชนเป็นโรงพยาบาลประกันสังคม จำนวน 81 แห่ง และสมาคมโรงพยาบาลเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือกับกระทรวงแรงงานอย่างเต็มที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยต่อไปว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 9 เมษายน 2564 พบว่ามีผู้ป่วยโรคโควิด 19 รายใหม่ จำนวน 559 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่สีแดง 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และปทุมธานี ส่งผลให้ผู้ประกันตนตามเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง ตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กำหนด มีโอกาสเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 และอาจมีอัตราผู้ประกันตนที่ป่วยได้รับยืนยันเพิ่มขึ้น กระทรวงแรงงานจึงได้สำรวจความพร้อมโรงพยาบาลประกันสังคม เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการดูแลรักษาให้โรงพยาบาลประกันสังคมมีจำนวนเตียงเพียงพอ โดยการเพิ่มเตียงในโรงพยาบาลและจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเอกชน ซึ่งจาการสำรวจโรงพยาบาลประกันสังคมภาคเอกชน จำนวน 81 แห่ง ส่วนใหญ่มีความพร้อมในการให้บริการแก่ผู้ประกันตน ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้พร้อมจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลตามประกาศคณะกรรมการแพทย์โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคมให้ผู้ประกันตนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรับบริการทางการแพทย์ทั้งค่าตรวจและค่ารักษาโรคโควิด-19 ส่งผลให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกันที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานพร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจากผลกระทบภาวะวิกฤติโควิด-19 ในทุกๆด้าน เพื่อหาแนวทางกำหนดมาตรการแก้ไขให้สอดคล้องกับภาวะเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันต่อไป .-สำนักข่าวไทย