นพ.ยง ย้ำวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อประสิทธิ์ภาพไม่ต่างกัน

กทม. 27 ก.พ.-นพ.ยง ย้ำวัคซีนโควิด-19 ที่เข้ามาในไทยทั้ง 2 ยี่ห้อ ถือว่ามีประสิทธิ์ภาพและความปลอดภัยไม่แตกต่างกัน ขอคนที่ยังลังเล สนับสนุนให้มีการฉีด

ศ.นพ.ยง ภู่วรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่ากรณีที่ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถรับวัคซีนของซิโนแวคได้นั้น เพราะต้องทำตามข้อบ่งชี้ของการรับวัคซีน ที่นายกรัฐมนตรี อาจไม่เข้าเกณฑ์อายุ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีข้อมูลศึกษาวิจัยเพิ่มขึ้น นายกรัฐมนตรี ก็อาจรับวัคซีนซิโนแวคได้


ส่วนความปลอดภัยในการรับวัคซีนโควิด-19 ว่า วัคซีนโควิด-19 ที่เข้ามาในไทย ทั้งซิโนแวค ที่เป็นเชื้อตาย และแอสตราเซเนกา ที่เป็นวัคซีนจากไวรัสเวกเตอร์ ถือว่ามีประสิทธิ์ภาพและความปลอดภัยไม่แตกต่างกัน สำหรับคนที่มีความลังเลว่าจะรับวัคซีนดีหรือไม่ อยากสนับสนุนให้มีการฉีด เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกันตนเองแล้ว ยังเป็นการป้องกันคนรอบข้าง การฉีดวัคซีนในกลุ่มคนจำนวนมาก ทำให้ได้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ช่วยให้โรคสงบลง โดยการรับวัคซีนต้องพิจารณาหลักเกณฑ์โดยไล่เรียงความเสี่ยง พร้อมยกตัวอย่างว่า ที่อิสราเอล มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วถึง 80% ผลปรากฏช่วยทำให้ลดจำนวนผู้ป่วยลงครึ่งต่อครั้ง จากเดิมก่อนฉีด และพบว่ายังช่วยลดอัตราการตายอย่างมีนัยยะสำคัญด้วย จึงเป็นเครื่องยืนยันว่าการฉีดวัคซีนในคนจำนวนมากช่วยให้ความรุนแรงของโรคลดลง

ส่วนเรื่องของการแทรกซ้อน สามารถมีขึ้นได้ ตั้งแต่ปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือจุดที่ได้รับวัคซีน รวมถึงมีอาการไข้ต่ำ แต่ยังไม่ได้รับรายงานการเสียชีวิต หรืออาการแทรกซ้อน โดยที่สหรัฐ อเมริกา ที่มีผู้รับวัคซีนและเสียชีวิต 113 คน เมื่อสืบสาเหตุของการเสียชีวิต กลับพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน จึงขอให้ประชาชนมั่นใจ


ศ.นพ.ยง กล่าวย้ำว่า การฉีดวัคซีนโควิด ไม่ได้ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรค แต่ช่วยลดความรุนแรงของโรคที่อาจเกิดขึ้น ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด พร้อมกับไข้หวัดใหญ่นั้น ยังไม่ขอแนะนำ เนื่องจากหากเกิดอาการแพ้อาจทำให้ไม่สามารถแยกได้ว่า เกิดการแพ้จากวัคซีนชนิดใด ส่วนประสิทธิภาพของวัคซีนจะสร้างภูมิคุ้น และป้องกันเชื้อได้ในระยะยาวหรือไม่นั้น ยังคงต้องมีการศึกษาต่อไป ส่วนคนที่เคยป่วย ได้รับเชื้อโควิดมาแล้ว เห็นว่าควรได้รับวัคซีนหากเคยป่วยและรักษาหายแล้วมากกว่า 6 เดือน ทั้งนี้การรับวัคซีนจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันใหม่ให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ต้องการรับวัคซีนโควิด-19 ต้อง มีร่างกายแข็งแรง ไม่มีไข้ หลังรับวัคซีนยังต้องดูอาการ 30 นาที เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอาการข้างเคียง แต่หากมีอาการรุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ควรรีบพบแพทย์ทันที แต่หากมีอาการไม่รุนแรง สามารถส่งข้อมูลอาการแจ้งไว้ที่ไลน์หมอพร้อมก็ได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ