เฝ้าระวังโรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน

กรุงเทพฯ 30พ.ย.-ผอ.สถาบันโรคทรวงอกชี้โรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน แม้ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่ทุกคนสามารถเฝ้าระวัง โดยเฉพาะเมื่อเวลาออกกำลังกายหายใจไม่อิ่มแน่นหน้าอก


นพ.เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ ให้สัมภาษณ์ว่า โรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน หรือ heart attack เป็นคำเรียก แสดงอาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด พบได้ทุกช่วงวัยโดยมากในผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไป สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกขณะในเวลาพักนอนหลับหรือออกกำลังกาย แต่การพบเห็นภาวะนี้ในขณะออกกำลังกายเป็นส่วนมาก เนื่องจากเมื่อออกกำลังกายจะเกิดความเครียดจะเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการปริแตกของผนังด้านในของหลอดเลือดหรือพลาค(plaque)หรือตะกรันในหลอดเลือดมีการปริแตก แล้วทำให้มีเม็ดเลือดหรือเกล็ดเลือดมาจับกันเป็นก้อน แล้วมาอุดตันเส้นเลือดหรือจุดที่อุดตันนั้น อาจมีรอยโรคเดิมอยู่ ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่จะไม่เคยสังเกตหรือรู้ว่าตนเองมีรอยโรคอยู่เพราะไม่มีอาการใดๆ เนื่องจากเกิดด้านในของผนังหลอดเลือด ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่หลอดเลือดเส้นนั้นไปเลี้ยง เกิดอาการ ขาดเลือดเฉียบพลัน

สำหรับอาการเตือนเบื้องต้นอาจอึดอัดแน่นหน้าอก ปวดร้าวไปถึงบริเวณกรามและไหล่ในบางคนอาจมีอาการวิงเวียนและคลื่นไส้ เป็นลมเหงื่อแตก ซึ่งบางคนหากวิ่งอยู่แล้วเกิดอาการเช่นนี้อาจคิดว่าเป็นอาการเหนื่อย แต่เป็นอาการเตือนของหัวใจกำเริบเฉียบพลันก็ไม่ควรฝืน


คำถามที่ว่าเมื่อวอร์มร่างกายก่อนวิ่งแล้ว แต่ยังสามารถเกิดอาการหัวใจกำเริบเฉียบพลันได้ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ผอ.สถาบันโรคทรวงอก กล่าวว่ายังไม่มีใครทราบสาเหตุที่แน่ชัดเพราะไม่ว่าจะออกกำลังกายหนักหรือ เบาก็อาจเกิดอาการนี้ได้ทั้งนั้น

นอกจากนี้ยังกล่าวต่อว่าบางคนอาจเพิ่งอิ่มจากมื้ออาหารหรือนอนพักก็เกิดอาการจุกเสียดแน่น บางคนวิงเวียนศีรษะขอไปนอนพักและเกิดอาการวูบไป กลายเป็นโรคหัวใจขาดเลือดก็มี อย่างไรก็ตามหากมีอาการหายใจไม่อิ่มและหายใจแล้วเจ็บหน้าอก ควรตั้งข้อสังเกตว่าเข้าข่ายโรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน รีบไปพบแพทย์ทันที

โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดยังมีแบบเรื้อรัง กล้ามเนื้อหัวใจมีการอุดตันอยู่บางจุดแล้ว ส่วนใหญ่คนไข้จะไปพบแพทย์ มีการสวนหัวใจและกินยาอยู่แล้ว คนที่มีอาการเหล่านี้จะไม่ออกแรงมาก แตกต่างจากคนที่เป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและเข้าสู่ภาวะหัวใจกำเริบเฉียบพลันที่จะไม่รู้ตัวมาก่อน เกิดแบบกระทันหันไม่รู้ตัวคาดเดาไม่ได้


ส่วนวิธีหลีกเลี่ยงป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจกำเริบเฉียบพลันไม่มีวิธีที่แน่ชัด แม้ข้อมูลจะบอกว่า เบาหวาน ความดัน จะเป็นตัวเสี่ยงให้เกิด กล้ามเนื้อหัวใจตีบแต่ในปัจจุบันเราก็ยังเจอคนเป็นโรคนี้โดยไม่มีภาวะเสี่ยงเหล่านั้น มาก่อนเลย หรือบางคนเป็นนักกีฬานักวิ่งมาราธอนก็อาจเกิดโรคนี้ได้

ข้อแนะนำสำหรับผู้จะไปออกกำลังกายหรือวิ่งมาราธอนควรตรวจร่างกายให้อยู่ในสภาพที่พร้อม ส่วนผู้จัดกิจกรรมการวิ่งต้องเตรียมทีมกู้ภัยกู้ชีพฉุกเฉินสามารถส่งผู้ป่วยที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็วให้พร้อม

ผอ.สถาบันโรคทรวงออก ยังกล่าวว่าการกู้ชีพพื้นฐานหรือซีพีอาร์ เป็นการเปลี่ยนจังหวะการเต้นของหัวใจห้องล่างที่บีบตัวเร็วและที่รุนแรงจากการขาดเลือด จนกระทั่งไม่มีเลือดออกไปเลี้ยงอวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกายให้กลับมาเต้นในจังหวะปกตินั้น เป็นเพียงการซื้อเวลาเท่านั้น เมื่อกูชีพพื้นเบื้องต้นแล้วต้องรีบส่งคนไข้ต่อไปยังโรงพยาบาล ที่มีศักยภาพสูงทันที เพื่อให้การวินิจฉัยและรักษาต่อ เช่น ให้ยาละลายลิ่มเลือด หรือต้องสวนหัวใจทำบอลลูน ซึ่งระยะเวลาตั้งแต่เกิดอาการจนแพทย์จนถึงมือแพทย์เป็นช่วงโกลเด้น period กินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือถ้าไม่มีข้อห้ามอันตรายรุนแรงก็ควรให้ยาละลายลิ่มเลือดกับผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปก่อน

สำหรับสถาบันโรคทรวงอกให้บริการผู้ป่วยหัวใจกำเริบเฉียบพลัน ต้องทำการสวนหัวใจ เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่ปี 2552 มีอัตราผู้ป่วยเสียชีวิตน้อยกว่า 5%

สำหรับคนแนะนำผู้ที่จะวิ่งในกิจกรรมต่างๆ ที่จัขึ้นมากในช่วงปลายปีควรทดสอบตัวเองหากมีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่อิ่มให้สังเกตว่าอาจเป็นโรคหัวใจกำเริบเฉียบพลันได้ ส่วนผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายไม่เคยซ้อมไม่แนะนำให้ไปงานวิ่ง แต่ขออย่าวิตกกังวลและตื่นตระหนกเกินไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม

กระบี่ 23 พ.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามสั่งเด้งนายอำเภอปลายพระยา เซ่นจับบ่อนใหญ่กลางสวนปาล์ม อธิบดีกรมการปกครอง ลงนามในคำสั่งให้ นางนันทิชา เกิดแก้ว นายอำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ ช่วยราชการ ที่วิทยาลัยการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป หลังจากช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “บองหลาไฟ” บุกทลายบ่อนกลางสวนปาล์ม พื้นที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จับกุมนักพนันได้กว่า 70 คน เบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 12 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนนักพนันทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลแพ่งจังหวัดกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว .-สำนักข่าวไทย

จับตาศาลชี้ชะตา “คดีแตงโม” จำเลยมาตามนัดพร้อมเพรียง

นนทบุรี 23 พ.ค.- ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ขณะที่จำเลยต่างเดินทางมาศาลอย่างพร้อมเพรียง. -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด […]

นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดใหม่ ดึง นทท.เข้าไทย

ลอนดอน 22 พ.ค. – นายกฯ หารือภาคท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย ตั้งเป้าปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้เป็น Tourism Hub ระดับโลก ชี้ 4 เดือนแรก นักท่องเที่ยวยุโรปเข้าไทยแล้วกว่า 3.5 ล้านคน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัทท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร ผู้บริหารสายบิน เป็นต้น เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของไทย จากนั้น น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า ปีนี้ไทยตั้งเป้าเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้ไทยเป็น Tourism Hub ระดับโลก ที่ผ่านมารัฐบาลทำแคมเปญหลายอย่าง โดยเฉพาะการมุ่งเป้าทำให้การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคนต่อทริป (Spending […]