เผยผลสำรวจผลกระทบโควิดทำรายได้ประชากรลด-หนี้เพิ่ม

กทม. 23 พ.ย.63 – สกสว. เผยผลสำรวจหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มอยู่ในเชิงบวก พบคนว่างงานน้อยลง แต่แรงงานกลุ่มเจนเอ็กซ์ และเจนวาย วัย 25 – 55 ปี รายได้ลด และมีหนี้เพิ่ม


ผศ.ดร.สุกานดา เหลืองอ่อน ลูวิส  ผู้อำนวยการภารกิจการวิเคระห์สถานการณ์ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานวิจัยโครงการ “ศึกษาผลกระทบ มาตรการ และโอกาสทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีจากการระบาดของโรคโควิด 19”  ซึ่งผลการวิจัยในชุดโครงการนี้  สกสว. จะนำไปพัฒนาโปรแกรมวิจัยที่ 17 การแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศ ในแผนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (แผน ววน.)

ดร. สมชัย จิตสุชน  นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย  (ทีดีอาร์ไอ)  กล่าวว่า ข้อมูลจากโครงการศึกษาผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจจากสถานการณ์การระบาดของโควิด – 19 : กลไกการรับมือ มาตรการช่วยเหลือ และวางแผนระยะยาว ซึ่งงานวิจัยนี้มุ่งเน้นการประมวลผลกระทบเชิงสังคมจากโควิด-19 เพื่อนำไปสู่การพัฒนานโยบายและสื่อสารข้อมูลสู่สาธารณชน  


ทั้งนี้จากการสำรวจผลกระทบจากโควิด 19 ทางด้านเศรษฐกิจพบว่า ประชากร ร้อยละ 73.2 มีรายได้ลดลงหลังเกิดการระบาด โดยร้อยละ 39.9 มีรายได้ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง ผู้มีการศึกษาต่ำมีความเสี่ยงที่รายได้ลดมากกว่าผู้มีรายได้สูง ประชากรร้อยละ 8 ย้ายที่อยู่ระหว่างการระบาด คาดว่าย้ายกลับภูมิลำเนาร้อยละ 16.2 (ไม่รวมกลุ่มข้าราชการและพนักงานของรัฐ)  

มีบุคคลกลายเป็นคนว่างงาน ร้อยละ 1.7  โดยออกจาก แรงงานรับจ้างทั่วไปหรือที่ทำงานแบบไม่ประจำมากสุด  ด้านผู้ประกอบการต่างปิดตัวลง ซึ่งมีเพียงร้อยละ 65 เท่านั้นที่ยังคงเปิดกิจการต่อ มีจำนวนลูกจ้างเกิน 10 คน 

ขณะที่คนเคยว่างงานหรืออยู่นอกกำลังแรงงานจำนวนหนึ่งต้องพยายามกลับมาหางานทำกว่าร้อยละ 70 ถูกกระทบจากโควิดในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น ถูกพักงาน เลิกจ้าง ยอดขายลดลง หรือปิดกิจการ และทุกมาตรการปิดเมืองมีผลกระทบต่อการทำมาหากิน


ส่วนผลกระทบด้านสังคม ประชากร ร้อยละ 49 มีความวิตกกังวลถึงผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตทั้งความไม่สะดวกในการเดินทาง และความไม่สะดวกในการรับบริการทางการแพทย์กรณีเจ็บป่วย 

ร้อยละ 46 ของครัวเรือนที่มีเด็กวัยเรียน ตอบว่าไม่พร้อมที่จะเรียนระบบออนไลน์ เนื่องจากไม่มีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก,แท็บเล็ต เหตุผลรองลงมา เนื่องจากผู้ปกครองไม่มีเวลาในการช่วยเหลือบุตรหลานในการเรียนออนไลน์

สำหรับประเด็นการว่างงานจากการปิดเมือง ผลการสำรวจช่วงที่ 1 เมื่อเดือนเมษายน – พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทั่วประเทศไทยมีคนที่ตกงานหลังสถานการณ์โควิด ประมาณ 5.69 ล้านราย เยาวชนอายุ 15 – 24 ปี หรือกลุ่มเจน และผู้ทำอาชีพรับจ้างทั่วไปไม่ประจำ (ลูกจ้างรายวัน/ผู้รับเหมาช่วง) เป็นกลุ่ม เป็นผู้เสี่ยงตกงานมากที่สุดจากการปิดเมือง

ผลการสำรวจครั้งที่ 2 ในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม  2563  พบว่าสัดส่วนคนว่างงานน้อยลงเหลือประมาณ 3.4 ล้านราย แต่พบแผลเป็นทางเศรษฐกิจ คือ บัณฑิตจบใหม่เป็นผู้ว่างงานเป็นระยะเวลานานจนสูญเสียทักษะคนวัยทำงานเต็มตัว กลุ่มเจนเอ็กซ์ (40 – 55 ปี) และ เจนวาย  (25 – 39 ปี) เป็นผู้มีรายได้ลดลง แต่หนี้สินครัวเรือนเพิ่ม ทำให้การขยับสถานะทางสังคมเป็นไปได้ยากขึ้น รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีทดแทนแรงงานในกระบวนการผลิตหรือการให้บริการรวดเร็วขึ้น ,เด็กนักเรียนขาดการเรียนหรือการได้รับโภชนาการที่เหมาะสม เกิดความความเหลื่อมล้ำในทุนมนุษย์ ลดศักยภาพในการขยับสถานะระหว่างรุ่น การสร้างงานและส่งเสริมศักยภาพแรงงานในระยะยาว  

โดยสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการแก้ไข นักศึกษาจบใหม่ปีการศึกษา 2563 จำนวน  5 แสนคน สุ่มเสี่ยงที่จะเป็นผู้ว่างงาน โครงการต่างๆ ที่ช่วยเหลือ อาจจะรับรองได้ไม่หมด

ด้าน ผศ.ดร. บุญเลิศ วิเศษปรีชา  นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยข้อมูลจากการศึกษาเรื่อง “ผลกระทบของโควิด 19 ต่อชีวิตของกลุ่มคนไร้บ้านและคนจนเมือง” จากกลุ่มตัวอย่างคนไร้บ้านจำนวน 137 คน พบว่าโจทย์สำคัญสำหรับสวัสดิการสังคมหลังโควิด 19 คือ 1.ควรมีฐานข้อมูลแรงงานนอกระบบที่ครอบคลุมทันสมัย 2. ควรพัฒนาระบบสวัสดิการให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ เช่น การมีรายได้พื้นฐานถ้วนหน้า หรือ UBI  และมีบำนาญถ้วนหน้าหรือไม่ อย่างไร เนื่องจากประกันสังคมมาตรา 40 ยังไม่จูงใจคนเข้าร่วม

3. ควรทำให้แรงงานนอกระบบเข้าถึงสินเชื่อต้นทุนต่ำ  เนื่องจากเรื่องกองทุนหมุนเวียนในชุมชนยังมีถูกหยิบยกมากล่าวถึงในช่วงโควิด นอกจากนี้ความท้าทายด้านสวัสดิการของประเทศไทย สำหรับคนไร้บ้านในสถานการณ์โควิด19 คือ สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งมีข้อกัดหลายประการ เช่น อยู่ไกลผู้รับบริการส่วนใหญ่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ศูนย์ที่พักทางเลือกโดยองค์กรพัฒนาเอกชน เช่น มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มีการจัดการยืดหยุ่นกว่า มีข้อดีด้านความสะดวกในการเข้าถึง  จึงอาจต้องมีมาตรการแก้ไขช่องว่างนี้

อย่างไรก็ตามโครงการ “ศึกษาผลกระทบ มาตรการ และโอกาสทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีจากการระบาดของโรคโควิด 19”  มีชุดโครงการประกอบด้วย 7 โครงการวิจัย คือ 1.ผลกระทบของโควิด 19 ต่อชีวิตของกลุ่มคนไร้บ้านและคนจนเมือง  2.การศึกษาผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ จากสถานการณ์การระบาดของ โควิด 19 : กลไกการรับมือ มาตรการช่วยเหลือ และวางแผนระยะยาว 3.การเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรม หลังวิกฤตโควิด19 4.บทเรียนการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์เพื่อการควบคุมโรคและแนวโน้มการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีหลังวิกฤตโควิด 19  5.ความจำเป็นต้องจ้างแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย 6.โครงการ Social Monitoring สถานการณ์ความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย  7.โครงการศึกษาพลวัตของความเหลื่อมล้ำในมิติรายได้และการบริโภคของครัวเรือนไทยและพลวัตของโครงสร้างของตลาดแรงงานไทยใน 3 ทศวรรษ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

ลงโทษ “ชัยวัฒน์” ไล่ออกจากราชการ ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคำสั่งลงโทษไล่ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพบพฤติการณ์ฮั้วประมูล และปลอมเอกสารตรวจรับงานที่ทำให้รัฐเสียหาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194/2568 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้ลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. […]