“พล.อ.ประวิตร” ห่วงชาวสวนปาล์มเร่งดูแลปัญหาราคาอย่างเป็นระบบ

สำนักข่าวไทย 19 มิ.ย.- “พล.อ.ประวิตร” ประธาน กนป. ลงพื้นที่สุราษฎร์ฯ ขับเคลื่อนราคาปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง พร้อมมอบถุงปันสุขช่วยเกษตรกรได้รับผลกระทบจากโควิด-19




เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานตามมติ กนป. เพื่อรับฟังปัญหาจากผู้ปฏิบัติงาน ตรวจเยี่ยมเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันแปลงตัวอย่าง ตรวจคุณภาพมาตรฐานโรงงานสกัดและโรงงานไบโอดีเซลในพื้นที่ จ. สุราษฎร์ธานี  โดยได้พบปะเยี่ยมเยียนและมอบถุงปันสุข ให้กับชาวสวนปาล์มเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเป็นประธานประชุมมอบนโยบายแก่ผู้แทนหน่วยงานส่วนกลางและในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วย สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมวิชาการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมการค้าภายใน กรมศุลกากร กองทัพภาคที่ 4 ทัพเรือภาคที่ 2 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ และพังงา พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองณ. ห้องประชุมธูปเตมีย์ บน.7 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี 

 


พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ด้านราคาได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ราคาเฉลี่ยกิโลละ 3.22 บาท ถึง 3.09 บาท  รัฐบาลได้จ่ายเงินชดเชยประกันรายได้ วงเงิน 1,400 ล้านบาทเศษ แต่เนื่องจากมีปาล์มออกสู่ตลาดมากกว่า 3.5 ล้านตัน จึงมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 10,740 ล้านบาท หากไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 คาดว่า การใช้ไบโอดีเซล บี 10 เป็นไปตามเป้าหมาย เชื่อว่าราคาปาล์มไม่น่าจะต่ำกว่ากิโลละ 4 บาท และยืนยันว่าได้นั่งเป็นประธาน กนป. มายาวนานกว่า 5 ปีเต็มแล้ว รู้ปัญหาหมดทุกด้าน ได้ออกนโยบายและผลักดันมาตรการด้านการผลิต การตลาด และพลังงานครบวงจรแล้ว รวมทั้งวางแผนให้เกิดการปฏิรูปและพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ โดยยึดหลัก “ปาล์มคุณภาพ ราคาที่เป็นธรรม ผลักดันไบโอดีเซล ลดมลภาวะ”  ในปีนี้ เน้นให้เพิ่มความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบ โดยส่งเสริมไบโอดีเซล บี10 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ดันราคาเฉลี่ยทั้งปีไม่ให้ตำ่กว่ากิโลละ 4 บาท เพื่อให้ชาวสวนปาล์มมีเงินจับจ่ายใช้สอยและเหลือเก็บไว้เป็นทุน

พล.อ.ประวิตร เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยึดแนวทางขับเคลื่อนที่ กนป. ได้มีมติเห็นชอบ เป็นหลักในการปฏิบัติอย่างจริงจัง ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยให้พิจารณาตั้งชุดปฏิบัติงานรับผิดชอบงานแต่ละด้านให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในแต่ละท้องที่ และขอกำชับการปฏิบัติเพิ่มเติมดังนี้ (1) ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าทีม Single Command บูรณาการสั่งการด้วยตนเอง (2) ให้มีการสร้างการรับรู้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ปลูกฝังการตัดปาล์มที่สุกเต็มที่ (3) กวดขันกำกับให้มีการรับซื้อผลปาล์มที่ได้เกณฑ์มาตรฐานสินค้าเกษตร ทะลายปาล์มน้ำมัน ตามราคาที่เป็นไปตามโครงสร้างราคาที่กรมการค้าภายในจัดทำขึ้น (4) กำกับให้โรงงานสกัดปาล์มน้ำมันในพื้นที่ดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม อัตราน้ำมัน 18 เปอร์เซนต์ (5) กวดขันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มโดยผิดกฎหมาย ในการนี้ ขอให้ใช้มาตรการขอความร่วมมือจาก พี่น้องชาวสวนปาล์มน้ำมัน ผู้ประกอบการลานเท โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สภาเกษตรกร ผู้รับจ้างตัดปาล์มในการตัดทะลายปาล์มที่สุกเต็มที่ เจ้าหน้าที่หน่วยเกี่ยวข้องทุกฝ่ายและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร เดินทางไปพบปะชาวสวนปาล์มที่คอยต้อนรับ ณ สหกรณ์สุราษฎร์ธานี (โค-อ๊อป) อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมอบถุงปันสุขให้กับตัวแทนเกษตรกร จำนวน 2,000 ถุง โดยมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำไปแจกจ่ายต่อไป และได้เดินทางไปเยี่ยมชมแปลงปาล์มของ​ นายโสฬส เดชมณี เกษตรกรตัวอย่าง ในการผลิตปาล์มคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต เนื้อที่ 44 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย​ 6.5 -7.3  ตันต่อไร่ต่อปี ต้นทุนเฉลี่ยกิโลละไม่เกิน 2.00 บาท ต่อจากนั้นได้เยี่ยมชมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและโรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ณ บริษัท นิว ไบโอดีเซล อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน เป็นการต่อยอดนำน้ำมันปาล์มดิบมาเพิ่มมูลค่า กลั่นเพื่อผลิตเป็นน้ำมันปาล์มบริโภคชนิดบรรจุขวดและผลิตเป็นนำ้มันไบโอดีเซลเชิงพาณิชย์ 

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน ฯ กล่าวว่า นับเป็นการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และขับเคลื่อนภารกิจของพล.อ.ประวิตร ประธาน กนป. ครั้งที่ 2 ในปี 63 โดยเป็นการมอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและทีมงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องนำไปสู่การปฏิบัติ และเป็นการตรวจเยี่ยมกระบวนการปฏิรูปและพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ แบบครบวงจร เพื่อนำไปผลักดันการแก้ปัญหาในระดับนโยบายทั้งระยะสั้นและระยะยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย