2 มิ.ย.- “จิสด้า” ตรวจพบสนามแม่เหล็กโลกระดับ G3 บริเวณประเทศไทย แจงกระทบการทำงานของดาวเทียมและคลื่นวิทยุความถี่สูง
ข้อมูลจากเซนเซอร์ของ GISTDA ตรวจพบพายุสนามแม่เหล็กโลกระดับปานกลาง (G3) บริเวณประเทศไทย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการปะทุของมวลสารจากดวงอาทิตย์ (Coronal Mass Ejection – CME) ที่ปล่อยออกมาจากบริเวณจุดมืด AR4100 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา
สนามแม่เหล็กโลกที่ตรวจวัดได้ในประเทศไทยโดยใช้ค่าดัชนี Local K index มีค่าสูงถึง 7 จากระดับสูงสุดที่ 9 สะท้อนถึงการรบกวนของสนามแม่เหล็กโลกในระดับรุนแรงปานกลาง ซึ่งมีโอกาสส่งผลกระทบ ได้แก่ การรบกวนของสัญญาณระบบนำร่องผ่านดาวเทียมทำให้ความแม่นยำลดลงชั่วคราว การรบกวนของสัญญาณคลื่นวิทยุความถี่สูง (HF) และการปฏิบัติการของระบบดาวเทียม
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2568 ยังคงอยู่ในช่วงสูงสุดของวัฏจักรสุริยะรอบที่ 25 (Solar Cycle 25) ซึ่งหมายถึงกิจกรรมของดวงอาทิตย์ เช่น การเกิดจุดมืดและการปะทุจะยังคงเกิดขึ้นถี่และรุนแรง
อย่างไรก็ตาม GISTDA จะเฝ้าระวังและติดตามสภาพอวกาศอย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความคืบหน้าและแจ้งเตือนหากเกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในระยะต่อไป
ก่อนหน้านี้ จิสด้าแจ้งเตือนพายุสนามแม่เหล็กโลกระดับ G4 จากการปะทุบนดวงอาทิตย์เมื่อวันที่ 30-31 พฤษภาคม 2568 บริเวณจุดมืด AR4100 ได้ปล่อยทั้งเปลวสุริยะ (Solar Flare) และมวลโคโรนาขนาดใหญ่ (Coronal Mass Ejection – CME) ที่มีทิศทางพุ่งตรงมายังโลก CME ดังกล่าว คาดว่าจะถึงโลก 1 มิถุนายน และอาจก่อให้เกิดพายุสนามแม่เหล็กระดับรุนแรงหรือ G4 (NOAA scale) ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบนำทาง ระบบการสื่อสารชั่วขณะ และการปฏิบัติการของระบบดาวเทียม
นอกจากนี้ ปรากฏการณ์พายุแม่เหล็กโลกครั้งนี้จะทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงออโรรา (Aurora)หลากสีเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ใกล้ขั้วโลกและเขตละติจูดสูง สำหรับประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์นี้ .-สำนักข่าวไทย