กรุงเทพฯ 16 ก.พ. – กทม.ขยายบริการคลินิกมลพิษทางอากาศใน รพ. 8 แห่ง เร่งออกหน่วยสาธารณสุขเชิงรุก รับมือค่าฝุ่น PM2.5 เน้นดูแลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. แจ้งว่า กรุงเทพมหานคร มีบริการคลินิกมลพิษทางอากาศ ซึ่งปัจจุบันเปิดบริการเพิ่ม รวมทั้งสิ้น 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลสิรินธร โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธฺโร อุทิศ โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ และโรงพยาบาลนคราภิบาล โดยเปิดบริการคลินิกมลพิษทางอากาศ ให้สอดคล้องกับการคาดการณ์และสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 โดยในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คลินิกฯ ทั้ง 8 แห่งจะเปิดบริการทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ในช่วงสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 14-18 ก.พ.67 ที่จะมีค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน พร้อมให้ศูนย์บริการสาธารณสุข ทั้ง 69 แห่ง ออกหน่วยบริการสาธารณสุขเชิงรุกในพื้นที่ ทั้งนี้จากสถิติประชาชนที่มารับบริการที่โรงพยาบาล และศูนย์บริการสาธารณสุข พบว่าส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อสุขภาพ
จากสถานการณ์ผู้ป่วยที่เข้ารับบริการที่คลินิกมลพิษทางอากาศ ระหว่างวันที่ 1 – 14 ก.พ.2567 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 113 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันมากกว่า 100% โดยพื้นที่ที่มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบสูงสุดที่เขตบางคอแหลม รองลงมา ได้แก่ หนองแขม บางแค หนองจอก ยานนาวา และบางขุนเทียน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับคลินิกมลพิษทางอากาศที่เปิดให้บริการนี้ จะทำการคัดกรองอาการ ให้คำแนะนำและการรักษา รวมถึงการซักประวัติเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุและให้ข้อแนะนำในการปรับพฤติกรรมต่างๆ ให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีการให้บริการผ่านคลินิกออนไลน์ โดยประชาชนสามารถคัดกรองประเมินอาการตนเองในเบื้องต้น และหากมีอาการรุนแรงสามารถเข้าสู่ระบบการรักษาที่โรงพยาบาลได้ทันที นอกจากนี้ยังดำเนินการในเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ อาทิ สำนักงานเขต โรงเรียน ในการให้ความรู้ ข้อแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่โดยรอบ โดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจะเน้นการเข้าถึงกลุ่มเปราะบางเพื่อให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ รวมถึงการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง และการแจกหน้ากากอนามัยให้กับกลุ่มเปราะบางในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูง
สำหรับกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรเลี่ยงพื้นที่ฝุ่นสูง หรือลดระยะเวลาออกนอกอาคารให้น้อยที่สุด หากจำเป็นต้องออกนอกอาคาร ให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และงดการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง รวมทั้งปิดประตูหน้าต่างให้สนิท หรืออยู่ในห้องปลอดฝุ่นและสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่น ๆ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที . -417-สำนักข่าวไทย