สพฐ.แจงแนวทางดูแลความปลอดภัยสถานศึกษา

25 ม.ค. – สพฐ. แจงแนวทางดูแลความปลอดภัยสถานศึกษา ชี้เด็กไทยไม่ได้เรียนมากสุดในโลก พร้อมลดการบ้าน เพิ่มการเรียนรู้


ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มอบหมายให้นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วยนายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และนางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ แถลงข่าวชี้แจงแนวทางในการดูแลความปลอดภัยสถานศึกษา หลังจากมติ ครม. ยกเลิกการเข้าเวรครู และนักเรียนไทยมีชั่วโมงเรียนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นประเด็นที่สาธารณชนให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้

สำหรับประเด็นแรก นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สืบเนื่องจากมติ ครม. ที่ยกเลิกการเข้าเวรครู และ สพฐ. ได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต ประสานงานกับโรงเรียนในสังกัด ให้ดำเนินการดูแลสถานศึกษา โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยกับการเข้าเวร และมีการเปลี่ยนวิธีการใหม่หลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องการประสานขอความร่วมมือฝ่ายปกครองในพื้นที่ อาทิ ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนทีมงานของกระทรวงมหาดไทย และผู้เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องความปลอดภัยให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และมีการประชุมสถานศึกษา หากสถานศึกษาแห่งใดมีศักยภาพในการจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือนักการภารโรงอยู่แล้ว สามารถมอบหมายงานในด้านการรักษาความปลอดภัยได้โดยที่ครูไม่ต้องอยู่เวร และทำหน้าที่เพียงกำกับผ่านระบบต่างๆ สำหรับโรงเรียนที่มีกล้อง CCTV ซึ่งครูสามารถใช้เครื่องมือนี้ในการรักษาทรัพย์สินทางราชการได้ รวมถึงกรณีที่เกิดเหตุอื่นๆ เช่น ไฟไหม้ อุบัติภัย สาธารณภัย ต้องขอความร่วมมือจากชุมชน องค์กรท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของโรงเรียนร่วมกัน ช่วยกันดูแลอย่างทั่วถึงด้วย


“นอกจากนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ นำโดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ได้มีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความร่วมมือในการจัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเข้าไปดูแลสถานศึกษาแล้ว และในส่วนของ สพฐ. มีข้อสั่งการ โดยว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้สั่งการให้มีหนังสือขอความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความชัดเจนขึ้น และขอขอบคุณอีกครั้งที่แต่ละหน่วยงานต่างดำเนินการในหน้าที่ของตนเป็นอย่างดี เพื่อร่วมกันดูแลสถานศึกษา ให้นักเรียนและครูมาโรงเรียนอย่างอุ่นใจ ให้นโยบาย “เรียนดี มีความสุข” เกิดขึ้นได้จริง” นายธีร์ กล่าว

ต่อมาในประเด็นนักเรียนไทยมีชั่วโมงเรียนมากที่สุดในโลก นายวิษณุ ทรัพย์สมบัติ ผอ.สวก. กล่าวชี้แจงว่า ด้วยนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ) นโยบายที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการลดภาระของคุณครูกับการลดภาระของนักเรียน ดังนั้น ในการขับเคลื่อนนโยบายนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงได้จัดทำแนวทางในการลดการบ้านแล้วเพิ่มการเรียนรู้ให้กับนักเรียน โดยการให้การบ้านที่สอดคล้องกับสภาพการเรียนรู้ของนักเรียน ก็จะช่วยลดภาระเรื่องการบ้านให้กับนักเรียนได้

ทั้งนี้ หลักสูตรของ สพฐ. จัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ปรับปรุง พ.ศ. 2562) ซึ่งช่วงเวลาของการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 รวมวิชาพื้นฐาน วิชาเพิ่มเติม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ในปีการศึกษาหนึ่งรวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 1,000 ชั่วโมง ในขณะที่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เรียนไม่น้อยกว่า 1,200 ชั่วโมง และนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ชั้น ม.4-6 เรียนรวมกัน 3 ปี ไม่น้อยกว่า 3,600 ชั่วโมง


ทั้งนี้ ในหนึ่งปีการศึกษามี 40 สัปดาห์ หรือ 200 วัน ดังนั้น ในระดับประถมศึกษาจะใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้โดยเฉลี่ยวันละไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง ในขณะที่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย โดยเฉลี่ยวันละไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งหากดูจากกระแสข่าวในโซเชียล พบว่ามีบางกระแสข่าวสื่อสารว่าเด็กนักเรียนไทยเรียนมากที่สุดในโลก ซึ่งอาจจะมีความคลาดเคลื่อนต่อความเข้าใจของบุคคลทั่วไป เพราะไม่สามารถระบุแหล่งข้อมูลในการจัดเก็บ หรือบางครั้งการนับชั่วโมงก็นับตั้งแต่เวลาที่นักเรียนมาโรงเรียนไปจนถึงสิ้นสุดเวลาเรียนของวันนั้น โดยที่นับรวมช่วงเวลาพักเที่ยงหรือเวลาเบรกด้วย เป็นเวลา 9.5 ชั่วโมง

ทางสำนักวิชาการฯ สพฐ. ได้ลงไปเก็บข้อมูลโดยเอาตารางสอนของแต่ละโรงเรียนจำนวน 15 โรงเรียน มาดูรายละเอียดของการเข้าเรียน และพบว่าเวลาสูงสุดคือ 8 ชั่วโมง 50 นาที โดยนับตั้งแต่เวลาที่เด็กมาโรงเรียนจนถึงเลิกเรียน แต่หากดูเวลาเรียนจริงๆ พบว่าใช้เวลาสูงสุดที่ 7 ชั่วโมง 30 นาที และบางโรงเรียนถ้านับตั้งแต่เวลามาจนกลับ มีเวลาน้อยที่สุดก็คือ 6 ชั่วโมง 45 นาที แต่เวลาเรียนจริงๆ คือ 5 ชั่วโมง 35 นาที ดังนั้น ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาขนาดกลางหรือขนาดใหญ่จะมีค่าเฉลี่ยการมาโรงเรียนอยู่ที่ประมาณ 7.8 ชั่วโมง แต่เวลาเรียนจริงอยู่ที่ 6.9 ชั่วโมง ดังนั้น ถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้ว ของเราถือว่าไม่ได้สูงที่สุด ซึ่งหลายประเทศก็มีเวลาเรียนใกล้เคียงกับเรา อย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น คือ 203 วัน ซึ่งแทบไม่แตกต่างกัน

“ทั้งนี้ สพฐ. โดยว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. เห็นความสำคัญของการลดภาระนักเรียน จึงได้สื่อสารไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาในเรื่องของการลดการบ้านเพิ่มการเรียนรู้ ในประเด็นที่ 1 คือ การลดการบ้านหรือเพิ่มสิ่งที่จะให้เด็กเรียนรู้ด้วยงานที่คุณครูมอบให้ ถ้าหากภาระงานไหนทำเสร็จในห้องเรียนไม่ต้องให้เด็กไปทำต่อที่บ้าน ให้ทำเสร็จในกิจกรรมที่คุณครูจัดในห้องเรียนได้เลย

และประเด็นที่ 2 ให้การบ้านคือทักษะที่เด็กต้องไปทำเพิ่ม ดังนั้น รายวิชาที่จะสามารถให้เป็นการบ้านได้ต้องเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน อย่างเช่น วิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ โดยให้ในปริมาณที่เหมาะสมกับระดับชั้นของนักเรียน และสามารถบูรณาการข้ามกลุ่มสาระรายวิชาได้ โดยเป็นชิ้นงานหรือภาระงานตามความเหมาะสมของวิชา เน้นการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา สามารถเรียนรู้ได้ทั้งในและนอกห้องเรียน พร้อมทั้งเน้นให้เด็กเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้สถานการณ์จริงในการปฏิบัติและเรียนรู้ด้วยตนเอง ดังนั้น ในการจัดการเรียนรู้ที่ทำให้เด็กเรียนรู้อย่างมีความสุขและลดภาระของนักเรียน ยังช่วยให้คุณครูจัดการสอนที่เหมาะกับบริบทของโรงเรียนและนักเรียน เป็นการลดภาระครูด้วย ตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของ รมว.ศธ. ที่ต้องการให้นักเรียนและครู มาโรงเรียนอย่างมีความสุข เรียนรู้อย่างสนุกไปด้วยกัน” นายวิษณุ กล่าว.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]