มอบศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่เหตุระเบิดโกดังเก็บสารเร่งลำไย

30 พ.ย. – กรมอนามัย มอบศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่ เหตุระเบิดโกดังเก็บสารเร่งลำไย แนะทุกภาคส่วนควบคุม ดูแล ป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอย


กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมปฏิบัติการด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม (ทีม SEhRT) ศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ ร่วมกับทีมจังหวัดในการเฝ้าระวังและให้คำแนะนำการจัดเก็บ การดูแลสารเคมีที่ใช้ในทางเกษตรกรรมแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่และสื่อสารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การระเบิดของสารโพแทสเซียมคลอเรต หรือสารเคมีที่ใช้อบลำไยในโกดังพื้นที่บ้านไชยงาม หมู่ที่ 9 ตำบลแม่แวน อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ส่งผลให้อาคารที่เก็บสะสมสารดังกล่าวเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต 3 รายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของการระเบิด กรมอนามัยจึงได้มอบทีมปฏิบัติการฯ (ทีม SEhRT) ของศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ ทำงานร่วมกับพื้นที่ เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบางที่อาจได้รับผลกระทบ และมอบหมายให้ทำการเฝ้าระวัง ด้านสุขาภิบาล สุขอนามัย และอนามัยสิ่งแวดล้อม พร้อมให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคำแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงในการเฝ้าระวังด้านสุขภาพของตนเองและครอบครัว กรณีได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อรับการดูแลรักษาต่อไป


“ทั้งนี้ กรมอนามัยยังคงวิตกว่าอาจเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติดังกล่าวซ้ำได้หากไม่มีการควบคุม กำกับการจัดเก็บสารเคมีอย่างถูกต้อง จึงขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุม กำกับ และบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 เร่งสำรวจ สถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่มีการสะสมสารเคมีอันตราย โดยให้มีการตรวจตรา สำรวจพื้นที่ สถานที่จัดเก็บให้มีความปลอดภัย พร้อมให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบกิจการ เพื่อความปลอดภัยจากภัยพิบัติจากสารเคมี ควรกำหนดมาตรการหรือแนวปฏิบัติสำหรับการเก็บสะสมสารเคมีในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนควรสังเกตและเฝ้าระวังการลักลอบเก็บสะสมสารเคมีอันตรายในชุมชน หากพบว่ามีการเก็บสารเคมีในปริมาณที่มากเกินไป หรือมีการลักลอบสะสมสารเคมีอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาตให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบและควบคุม กำกับให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป

ด้าน พญ.นงนุช ภัทรอนันตนพ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ เปิดเผยว่าเบื้องต้นทีม SEhRT ของศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและร่วมลงพื้นที่พบว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นสวนลำไย ไม่มีบ้านเรือนประชาชนโดยรอบ และไม่พบแหล่งน้ำสาธารณะ จึงยังไม่พบการปนเปื้อนสารเคมีในแหล่งน้ำที่ส่งผลกับประชาชน แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นสัญญาณให้ทุกหน่วยงาน และประชาชนต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับการเก็บสะสมสารเคมีอันตรายทั้งในครัวเรือนและในสถานประกอบกิจการ โดยผู้ดูแลอาคารหรือโกดังเก็บสารเคมี ต้องมีความรู้ มีแนวปฏิบัติที่ได้มาตรฐานในการป้องกันการเกิดภัยพิบัติจากสารเคมีซึ่งอาจส่งผลต่อความเสี่ยงสุขภาพ ตลอดจน ชีวิต และทรัพย์สิน ดังนั้น ผู้ที่นำสารดังกล่าวมาใช้ และสะสมหรือมีไว้ในครอบครอง ต้องตรวจสอบและเฝ้าระวังด้านความปลอดภัยและปฏิบัติให้ให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำรอยความเสียหายที่เสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้