เครื่องบิน ทอ.นำแรงงานไทยชุดที่ 4 จำนวน 130 คน ถึงไทยแล้ว

ดอนเมือง 16 ต.ค. – กองทัพอากาศอพยพคนไทยในอิสราเอลกลับประเทศ เที่ยวแรกประสบความสำเร็จ ทุกคนปลอดภัย ขณะ “สุทิน” มั่นใจถึงสิ้นเดือน ต.ค. อพยพได้มากกว่า 6,000 คน เล็งปรับแผนลำเลียงแรงงานไป ประเทศที่ 3 และใช้ทัพเรือช่วยอพยพ หากจำเป็น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.50 น.ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) เครื่องบิน A340-500 ของกองทัพอากาศ เที่ยวบินแรกที่เดินทางไปอพยพคนไทยในอิสราเอล เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลอากาศเอก เสกสรร คันธา เสนาธิการทหารอากาศ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมให้การต้อนรับ ภาพรวมของผลการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามที่กองทัพอากาศวางแผนไว้

ทั้งนี้ คนไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับสู่ประเทศไทยในเที่ยวบินแรก จำนวน 130 คน แบ่งเป็นชาย 127 คน หญิง 2 คน และเด็กหญิง 1 คน โดยก่อนการเดินทางกลับประเทศไทยได้มีการตรวจร่างกายเพื่อตรวจสอบความพร้อมบินของผู้โดยสาร โดยทีมแพทย์ทหารอากาศ และการตรวจความปลอดภัยก่อนขึ้นเครื่องบิน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนอากาศยาน และมีลูกเรือดูแลอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางการบิน


เมื่อเดินทางถึงสนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารจะผ่านกระบวนการตรวจร่างกาย การตรวจคนเข้าเมือง การตรวจสอบสิทธิ ก่อนเดินทางไปสถาบันบำราศนราดูร เป็นลำดับต่อไป

สำหรับการอพยพคนไทยในเที่ยวบินที่ 2 กองทัพอากาศวางแผนนำ A340-500 ปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง ในวันที่ 18 ตุลาคม 2566 โดยใช้เส้นทางบินเดิม

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวกับนักบินและคณะกองทัพอากาศที่ดำเนินการในการลำเลียงคนไทยว่า สิ่งแรกที่อยากจะพูดคือ พวกเราทุกคนที่มาวันนี้ดีใจและชื่นใจที่ได้เห็นทุกท่านกลับมาโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับมีภารกิจที่สำเร็จอย่างสมบูรณ์ นั่นคือทุกท่านกลับมาด้วยสภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ประการที่สองคือ ภารกิจของเราได้ไปนำเอาพี่น้องเรากลับมา ซึ่งเมื่อสักครู่ได้เห็นพี่น้องเราได้กลับมา เห็นหน้าตาที่ทุกคนเหมือนกับว่าได้รอดพ้นจากอันตราย และทุกคนเหมือนมีความรู้สึกว่าจะได้กลับมาสู่ความอบอุ่นของแผ่นดิน ของครอบครัว เพราะฉะนั้นต้องชื่นชมความเสียสละของทุกท่าน และความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งด้วยจิตใจที่มีความโอบอ้อมอารีต่อพี่น้องคนไทยด้วยกัน


ดังนั้น ในฐานะกองทัพ กลาโหมและคนไทย ทุกคนขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่งด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ ขอขอบคุณและขอให้ทุกท่านได้พักผ่อน เพื่อเอาพลังที่จะได้ปฏิบัติหน้าที่ในรอบต่อไป ทั้งนี้ ในตอนท้าย นายสุทินยังได้ขอให้สื่อและผู้มาต้อนรับร่วมปรบมือให้กำลังใจคณะกองทัพอากาศด้วย

นายสุทิน ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณียังมีคนไทยที่จะเดินทางกลับอีก ขณะนี้มีอุปสรรคอะไร นายสุทิน กล่าวว่า อุปสรรคสำคัญคือยังมีการสู้รบ โดยเมื่อวาน (15 ต.ค.) ได้รับรายงานว่ายังมีการยิงจรวดโจมตีกันอย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีการยิงจรวดโจมตี การเดินทางจากต่างที่ต่างๆ มาสนามบินยังมีความลำบาก จึงต้องทำงานที่รัดกุม เพราะการเดินทางต้องมาด้วยความปลอดภัย ส่วนเรื่องคนอื่น เช่น เรื่องของหนังสือเดินทาง ก็เล็กน้อย เพราะทางสถานทูตเราพร้อมที่จะออกทดแทนและแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงสิ้นเดือนจะมีคนไทยอพยพออกมาได้ประมาณกี่คน นายสุทิน กล่าวว่า น่าจะประมาณ 6,000 คน แต่ตอนนี้กำลังคิดวิธีการอื่นๆ ซึ่งหากมีวิธีการอื่นๆ เพิ่มเติมอาจจะได้มากกว่า 6,000 คน

นายสุทิน ยังกล่าวกับประชาชนที่อพยพมาจากอิสราเอลว่า ทางรัฐบาลได้เร่งดำเนินการในการอพยพ โดยได้เตรียมพร้อมตั้งแต่วันแรกพร้อมจะบินทันที แต่ปัญหาคือทางอิสราเอลไม่อนุญาต เพราะต้องรอการอนุญาตจากอิสราเอลจึงจะบินได้ เพราะตอนนี้เขากำลังรบ เราถ้าเครื่องบินเราบินไปเกะกะทางยุทธการเขา เขาไม่ให้บิน เพราะฉะนั้นกินเวลาอยู่หลายวัน พวกเราแจ้งความประสงค์จะกลับ แต่ยังบินไม่ได้ ต้องรออนุญาตจากอิสราเอล ก็ได้แต่ห่วงใย จนวันหลังได้รับอนุญาตจึงบินทันที ซึ่งวันนี้บินอยู่หลายไฟลต์

ทั้งนี้ เนื่องจากเครื่อง C-130 ต้องเติมน้ำมันหลายที่ และเป็นเครื่องบินทหาร เมื่อบินผ่านหลายประเทศต้องขอหลายที่ ทำให้ยากขึ้น ดังนั้น รัฐบาลจึงใช้เครื่องพาณิชย์เช่าเครื่องบินเอกชนเข้ามาช่วย วันนี้การอพยพพวกเราจึงเป็นสองระบบคู่กันอยู่ คือใช้ทางกองทัพ ขณะทางเครื่องบินพาณิชย์เราก็เช่าเหมาลำ ส่วนบางคนมาเอง แต่มาถึงเมืองไทยเราก็คืนเงินให้ อันนี้คือการช่วยเหลือ บนเครื่องเราจัดพยาบาล แพทย์ จากหน่วยดูแลพวกเรา อันนี้ให้เข้าใจว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้ง กองทัพทำเต็มที่แล้ว

นายสุทิน กล่าวต่อว่า จากนี้ เราดูแลในเรื่องการตรวจสุขภาพ วันนี้มีกระทรวงแรงงานมาด้วย พร้อมจะจ่ายเบื้องต้น เขาจ่ายให้พวกเราก่อน 15,000 บาท กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ วันนี้ก็มาดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ารถกลับบ้าน และกลับไปถึงบ้านจะมีกระบวนการในการติดตามดูแลพวกเรา ทราบจากรัฐมนตรีว่าพอเรากลับมาแล้วกระทรวงแรงงานจะสำรวจพวกเรา ใครประสงค์จะกลับไปอีกก็แจ้งไว้ ถ้าเหตุการณ์สงบ สัญญายังเหลือ จะกลับไปเอง ก็คุยกับกระทรวงแรงงาน ถ้าไม่อยากไป จะไปประเทศอื่น จะไปที่ไหน บอกว่ากระทรวงแรงงาน พร้อมจะหางานให้ อันนี้คือระบบการดูแล ดังนั้น อยากให้ทุกคนมีกำลังใจ เรากลับบ้านด้วยกำลังใจ และอยู่กับครอบครัว ทำมาหากินต่อไป ถ้าคนอีสานก็จะบอกด้วยว่ามาเด้อขวัญเด้อ หมดทุกข์หมดโศกแล้ว รอดตายแล้ว

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า รัฐบาลกำลังคิดแผนใหม่อยู่ว่ากำลังจะเอาเครื่องบิน C-130 ที่บินไกลไม่ได้ไป ลำเลียง จากอิสราเอลไปไว้ประเทศที่ 3 เช่น จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย ดูไบ ไซปรัส นอกจากนี้เราคิดไปถึงขนาดว่าถ้ามันจำเป็นอาจจะต้องเสริมด้วยทางเรือ กองทัพเรือเอาเรือไปจอดรับ แต่ตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าดีใจ และขอให้ทุกคนเค้ากลับบ้านด้วยความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]