fbpx

กทม. ตั้งงบฯ 67 ไว้ 9 หมื่นล้าน ยันพร้อมทำงานร่วมรัฐบาลใหม่

กรุงเทพฯ 24 พ.ค. – กทม. ตั้งงบฯ 67 ไว้ที่ 9 หมื่นล้าน จัดทำแบบ Zero Based Budgeting ยืนยันพร้อมทำงานร่วมรัฐบาลใหม่ ด้านผู้ว่าฯ เผย ครบรอบ 1 ปี การทำงาน ยังเน้นเส้นเลือดฝอย หัวใจ คือ ความโปร่งใส


(24 พ.ค.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2566 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ว่า ในวันนี้มีการคุยเรื่องงบประมาณของปี 67 ซึ่งอยู่ที่ 90,000 ล้านบาท โดยทำเป็นงบแบบสมดุล ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายจะเป็นโครงการหลากหลายด้านทั้งเส้นเลือดฝอยและเส้นเลือดใหญ่ ภายใต้นโยบาย Zero Based Budgeting หรืองบประมาณแบบฐานศูนย์ คือการปรับทุกอย่างให้เป็นศูนย์ก่อน โดยกรุงเทพมหานครได้นำโครงการเก่ามาดูและพิจารณาว่าคุ้มหรือไม่ ถ้าไม่คุ้มหรือไม่จำเป็นก็จะไม่นำโครงการเดิมมาทำ หากจำเป็นจริง ๆ หรือเป็นโครงการที่มีประโยชน์ก็ค่อยใส่เข้ามา ซึ่งเป็นแนวคิดหนึ่งที่ทำให้เราใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้จะต้องนำเข้าสภากรุงเทพมหานครอีกครั้งหนึ่ง

จากที่ได้ติดตามอ่าน MOU ซึ่งทางกลุ่มที่เตรียมจัดตั้งรัฐบาลวางแนวทางไว้ แม้ว่าขณะนี้ยังไม่ทราบว่าสุดท้ายใครจะเป็นรัฐบาล แต่เบื้องต้น นโยบายในหลาย ๆ ด้านของกรุงเทพมหานครและสิ่งที่เราดำเนินการอยู่นั้นมีความสอดคล้องกับ MOU ดังกล่าว ทั้งในแง่ของความโปร่งใส ซึ่งเป็นหัวใจในการทำงาน การใช้เทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้น การทำ Zero Based Budgeting เป็นต้น อย่างไรก็ดี เราสามารถทำงานร่วมกับทุกคนได้ เพราะเราเป็นหน่วยงานท้องถิ่นซึ่งต้องทำตามรัฐบาลกลางอยู่แล้ว


ขณะนี้ก็มีนโยบายหลายเรื่องที่เตรียมจะนำเรียนรัฐบาลใหม่ เช่น เรื่อง PM 2.5 ที่ต้องลงมืออย่างใกล้ชิด โดยนำแผนแห่งชาติขึ้นมาพิจารณาใช้อย่างจริงจัง ซึ่งต้องร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแนวคิดเรื่องท่าเรือคลองเตยในอนาคต หรือแม้กระทั่งการนำพื้นที่สาธารณะ เช่น ใต้ทางด่วน/ทางรถไฟ มาทำเป็นลานกีฬา สถานที่ปลูกต้นไม้ การนำพื้นที่ราชการต่าง ๆ ที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ มาทำสวนสาธารณะเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว การบริหารจัดการขนส่งมวลชน ขนส่งสาธารณะในเมือง ตลอดจนเรื่องค่าครองชีพ หากรัฐบาลใหม่เห็นด้วยก็จะเป็นสิ่งที่ดี และหากเราหาแนวทางร่วมกันได้ดี สุดท้ายก็จะทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้

สำหรับระยะเวลาการทำงานเกือบ 1 ปี นโยบายที่เราพูดถึงมาโดยตลอดคือเรื่องเส้นเลือดฝอย เพราะเชื่อว่ากรุงเทพมหานครจะดีได้ต้องเริ่มที่เส้นเลือดฝอยซึ่งลงไปยังชุมชน ซึ่งต้องร่วมไปกับโครงการเส้นเลือดใหญ่ จึงจะสามารถทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ โดยนโยบายเส้นเลือดฝอยที่เราทำและเห็นได้ชัดเจนคือ Traffy Fondue เชื่อว่าเป็นสิ่งที่เปลี่ยนรูปแบบการทำงานของราชการที่เมื่อก่อนราชการอาจจะไม่ได้สนใจข้อเรียกร้องของประชาชนมากนัก ทั้งที่ประชาชนคือผู้ที่รู้ปัญหาในพื้นที่ได้ดี เมื่อเรานำระบบ Traffy Fondue มาใช้อย่างเอาจริงเอาจัง จึงเป็นการเปลี่ยนวิธีคิด ทำให้ข้าราชการไม่ต้องมาสนใจผู้ว่าฯ แต่สนใจแค่การบริการประชาชน การเอาใจใส่ประชาชน เพราะผู้ว่าฯ เองก็ใส่ใจการให้บริการประชาชนมากกว่าเช่นกัน ทั้งนี้ ในช่วงแรกไม่ได้คิดว่าจะสำเร็จขนาดนี้ ปัจจุบันมีเรื่องแจ้งมาทั้งหมด 285,771 เรื่อง แก้ไขแล้วเสร็จ 206,844 เรื่อง เป็นของหน่วยงานอื่น 61,870 เรื่อง กำลังดำเนินการอยู่ 8,911 เรื่อง นับเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการประชาชน ทั้งยังเป็นการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นอย่างไร้รอยต่อ เป็นการทลายไซโล (Silo) ที่เมื่อก่อนต่างคนต่างทำ สิ่งนี้เป็นตัวเชื่อมที่ทำให้ทุกหน่วยงานสามารถเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อนาคตเชื่อว่าจะมีการขยายผลใช้งานไปทั่วประเทศต่อไป ในส่วนของกรุงเทพมหานครก็ได้ขยายผลแล้ว โดยใช้ Traffy Fondue เป็นช่องทางการรับแจ้งเบาะแสเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน เพราะสิ่งที่เราเน้นมาตั้งแต่ต้นคือเรื่องของความโปร่งใสซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นกับเรา จึงได้เน้นย้ำว่าเราต้องเปิดเผยข้อมูล เอาจริงเอาจังกับเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งก็เริ่มเห็นผลแล้ว โดยได้มีคณะกรรมการ/คณะทำงานที่ลงไปดำเนินการอย่างเข้มข้น และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องหนึ่งที่เราคิดว่าทำได้ดี

สำหรับนโยบายเส้นเลือดฝอย 216 นโยบาย เราเริ่มไปแล้วประมาณ 190 กว่าเรื่อง อีกประมาณ 20 เรื่อง กำลังทบทวนว่าเป็นสิ่งที่ทันสมัยหรือไม่ ยังจำเป็นหรือไม่ หลายโครงการที่เราได้ดำเนินการไปเป็นเรื่องที่อาจจะเห็นไม่ชัด แต่แฝงอยู่ในชีวิตของประชาชน เช่น การขุดลอกท่อระบายน้ำ/คูคลอง การปรับระบบการศึกษา การเปลี่ยนหลอดไฟที่ดับ เปลี่ยนไฟเป็นหลอด LED เป็นต้น ซึ่งเราดำเนินการมาค่อนข้างเยอะ และยังคงเดินหน้าทำตามนโยบายที่ให้ไว้ เพื่อทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน หลาย ๆ โครงการเราได้งบประมาณมา ทั้งการปรับปรุงทางเท้า นำสายสื่อสารลงดิน ต่อไปก็จะเริ่มเห็นชัดเจนขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

กษัตริย์บรูไน เสด็จฯ เยือนไทย 28-29 เม.ย.นี้

สมเด็จพระราชาธิบดีฮาจี ฮัซซานัล บลเกียะฮ์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละฮ์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่าง 28-29 เมษายน 2567 ในรอบ 12 ปี เพื่อฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 40 ปี และจะทรงเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารความร่วมมือ 2 ฉบับ

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “เศรษฐา 1/1”

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 แล้ว “พิชัย” รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง โยก “สมศักดิ์” นั่ง รมว.สธ. แทน “นพ.ชลน่าน”

อาลัย “ดาบต้าร์” ตร.ทางหลวง เสียชีวิตแล้ว

ข่าวเศร้าเช้าวันหยุด ด.ต.ปิยะนันท์ สีเสื้อ หรือ “ดาบต้าร์” เสียชีวิตแล้ว หลังบาดเจ็บสาหัสจากเหตุเก๋งพุ่งชนขณะอำนวยการจราจรช่วงสงกรานต์