กทม. 2 ก.พ.-กทม.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พร้อมสั่งพักราชการ ผอ.โรงเรียน ทุจริตเรียกรับเงินผู้รับเหมาโครงการอาหารเด็ก จนถูกจับกุมคาเงินของกลาง
จากกรณี ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านบางชัน มีพฤติกรรมใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม เรียกรับเงินจากคู่สัญญาหรือผู้ประกอบการที่ชนะการเสนอราคาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารสำหรับนักเรียน ภาคเรียนที่ 2/2565 ของโรงเรียนฯ เป็นเงิน 329,000 บาท โดยอ้างว่าจะนำไปปรับปรุงวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ภายในโรงอาหารของโรงเรียน และเรียกเก็บเพิ่มเติมเป็นเงินรายเดือนอีกเดือนละ 9,000 บาท พร้อมข่มขู่ผู้ประกอบการ หากไม่ยอมทำตามก็จะทำเรื่องยกเลิกสัญญา หรือทำเรื่องรายงานไปที่กรุงเทพมหานครว่าผู้ประกอบการได้รับเงินส่วนต่างค่าอาหารเช้าจากการที่เด็กนักเรียนไม่มารับประทานอาหารเป็นเงินจำนวนมาก กระทั่งทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จึงวางแผนให้ผู้ประกอบการนำเงินไปส่งมอบให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวตามที่ร้องขอ ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมกับเงินของกลาง
ความคืบหน้าล่าสุด นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่าในการดำเนินการสอบวินัย เป็นอำนาจของปลัดกรุงเทพมหานคร จะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เนื่องจากเป็นความผิดที่ชัดแจ้ง และจะมีคำสั่งให้พักราชการไว้ก่อน โดยกรอบของกรรมการสอบจะใช้เวลาไม่เกิน30 วัน ซึ่งโทษสูงสุดก็คือการไล่ออก
โดยขั้นตอนการประมูลการได้งานของบริษัทดังกล่าวก็เป็นไปตามขั้นตอน E-bidding ผ่านกระบวนการหาตัวผู้รับจ้างตามที่กฎหมายกำหนดเป็นไปตามมาตรฐานตามโครงการอาหารของเด็ก ซึ่งโรงเรียนก็จะต้องเป็นผู้ตรวจตรา ส่วน กทม.มีการส่งที่ปรึกษาลงไปตรวจตราความถูกต้องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเคสนี้เป็นการกระทำผิดโดยบุคคลไม่ได้ทุจริตจากขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าจะเอาเงินมาซื้อโต๊ะเก้าอี้ก็คนละเรื่องกัน คนละงบประมาณกันอยู่แล้ว
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เรื่องทุจริตคอรัปชันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้และได้มีการสั่งเน้นย้ำมาโดยตลอด เชื่อว่าคนที่ทำผิดเป็นส่วนน้อยก็อยากจะให้กำลังใจคนส่วนใหญ่ คุณครูทั่วทั้ง กทม. เป็นคนดีและตั้งใจทำงาน.-สำนักข่าวไทย