สุรินทร์ 6 เม.ย. – กรณีตำรวจสุรินทร์บุกรวบครูสอนวิชาสังคมศึกษา พาเด็กนักเรียน ม.3 เข้าไปแก้ ร.ในรีสอร์ต ล่าสุด ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ สั่งย้ายครูคนดังกล่าวมาประจำที่เขต และตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน หากพบผิดจริงจะลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด
เรื่องอื้อฉาวในวงการการศึกษานี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ บุกรวบครูพาเด็กนักเรียนชั้น ม.3 อายุ 17 ปี เข้ารีสอร์ต หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ครูคนนี้สอนวิชาสังคมศึกษา อยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ มีพฤติกรรมชอบพาเด็กนักเรียนไปกระทำอนาจารอยู่บ่อยครั้ง โดยตำรวจเตรียมขยายผล เชื่อว่าเคยมีพฤติกรรมกระทำกับลูกศิษย์มาแล้วหลายคน
ตำรวจชุดสืบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย” ซึ่งหลังการแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับกุมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ด้านนักเรียนคนดังกล่าว บอกว่า ตนสอบติด “ร.” วิชาสังคมศึกษา และจะแก้ข้อสอบที่ติด “ร.” จึงมาที่โรงเรียน เพื่อพบกับครูผู้สอน จากนั้นครูได้ชวนตนออกมากินข้าวข้างนอก ก่อนจะขับรถกระบะพาเลี้ยวเข้ารีสอร์ต พร้อมกับชักชวนตนเข้าไปนั่งคุย และพยายามลวนลาม
ด้านแม่ของเด็ก บอกกับผู้สื่อข่าวว่า มีตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ โทรหา บอกให้ตนมาที่ สภ.เมืองฯ ด่วน เมื่อตนมาถึงจึงทราบเรื่อง รู้สึกเสียใจมากที่เกิดเรื่องแบบนี้ พร้อมยืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุด
ล่าสุดวันนี้ (6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนดังกล่าว เพื่อเข้าพบ ผอ.โรงเรียนฯ แต่ไม่พบ ติดต่อทางโทรศัพท์ก็ไม่รับสาย เนื่องจากโรงเรียนปิดและให้นักเรียนเรียนทางออนไลน์
ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อสอบถามข้อมูลไปยัง ดร.สำเริง บุญโต ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ทราบว่า ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และได้สั่งย้ายครูคนดังกล่าวมาประจำส่วนราชการที่เขต พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยให้กรรมการลงตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน หลังจากนั้นจะเข้าดูแลสภาพจิตใจและสืบหาข้อเท็จจริงกับเด็ก ให้เด็กได้ปรับตัวเพื่อเรียนต่อในโรงเรียน โดยจะดำเนินการตามระเบียบ หากมีความผิดจริงก็จะลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดและตามกฎหมายต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบผู้ปกครองคนอื่นเข้ามาร้องเรียนเพิ่มแต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย