กต.ยันไทยไม่เคยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ผิดหวัง “กัมพูชา” ปล่อยเฟกนิวส์

ก.ต่างประเทศ 30 ก.ค.-กต.ยืนยันไทยไม่เคยละเมิดข้อตกลงหยุดยิงแม้แต่ครั้งเดียว ผิดหวัง “กัมพูชา” ปล่อยเฟกนิวส์ แจงไทยไม่เคยใช้อาวุธเคมี ขออย่าบิดเบือนคำพูดว่าที่ทูตสหรัฐฯ คนใหม่ จ่อพาทูตทหารลงพื้นที่ชายแดนภายในสัปดาห์นี้ ชี้ไม่ได้ล่าช้า แต่คำนึงถึงความปลอดภัย

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กระทรวงการต่างประเทศ ณ กระทรวงการต่างประเทศ


นายนิกรเดช เปิดเผยถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา นับตั้งแต่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้เวลา 24.00 น.ของวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้ามืดของวันนี้ ฝ่ายความมั่นคงของไทยมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหลายครั้งหลายพื้นที่ เช่น การยิงปืนเล็ก และลูกระเบิดเข้ามาในเขตแดนของไทย ยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่พบการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไทยได้ส่งหนังสือแจ้งเรื่องการละเมิดไปยังประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน รวมถึงสหรัฐอเมริกาและจีน ในฐานะสักขีพยานในการเจรจาหยุดยิง ทั้งยังมีหนังสือไปถึงเลขาธิการสหประชาชาติไปแล้วเมื่อวานนี้

ตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนถึงช่วงเช้าวันนี้ หน่วยงานความมั่นคงพบการละเมิดข้อตกลง กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์การละเมิดดังกล่าว ซึ่งการดำเนินการควบคู่ไปกับการแถลงการณ์ประณามกัมพูชาของกองทัพบกและกองทัพไทย โดยเมื่อวานนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้พบกับนายบุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ซึ่งเดินทางมาที่ไทยเพื่อหารือประเด็นดังกล่าว ในฐานะสมาชิกอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้าน


นายมาริษ ได้อธิบายถึงท่าทีของไทยและข้อเท็จจริงบนพื้นที่ว่าเกิดอะไรขึ้นและการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดจริงของฝ่ายกัมพูชา นายบุ่ย ได้สนับสนุนท่าทีของไทยในการหาข้อยุติอย่างสันติวิธีโดยกลไกทวิภาคี โดยวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นก็โทรมาหานายมาริษ ในช่วงเวลา 13.00 น.ของวันนี้ ซึ่งประเทศญี่ปุ่นก็สนับสนุนไทยในการใช้กลไกทวิภาคีและหาข้อสรุปอย่างสันติวิธี

ฝ่ายไทยมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและมุ่งแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันโดยสันติวิธี ขณะที่เรายังพบกัละเมิดข้อตกลงของฝ่ายกัมพูชาอยู่บ่อยครั้ง แสดงให้เห็นถึงการขาดเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ในการเคารพต่อพันธกรณีภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ในการนี้ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงทุกรูปแบบโดยทันที และกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวด้วยความจริงใจและด้วยความสุจริตใจ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาไทยไม่เคยละเมิดข้อตกลงหยุดยิงแม้แต่ครั้งเดียว เพราะประเทศไทยรักษาคำพูดเรามีความมุ่งมั่นและแน่วแน่ในการลงมือปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างจริงจังและจริงใจ ไม่ได้พูดว่าจะปฏิบัติแล้วไม่ได้ทำจริง เป็นหลักการที่ไทยยึดถือมาโดยตลอด


ส่วนประเด็นการกดดันไทยให้ดูแลแรงงานกัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า ไทยเคารพสิทธิแรงงานต่างด้าวในไทยทุกประเทศ รวมถึงแรงงานกัมพูชาซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมภายใต้กฎหมาย พันธกรณีระหว่างประเทศเกี่ยวกับการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิแรงงานในกรอบ องค์การระหว่างประเทศ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ องค์การโยกย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ รวมถึงตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคีอยู่

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาระหว่างรัฐ ไทยไม่มีนโยบายตอบโต้ประชาชนกัมพูชาที่อาศัยและทำงานในประเทศไทย และจะไม่ผลักภาระไปสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศ

สำหรับการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของกัมพูชา ฝ่ายไทยขอแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จและบิดเบือนอย่างเป็นระบบของฝ่ายกัมพูชา โดยเฉพาะการสื่อสารประชาสัมพันธ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาที่มีเป้าหมายไม่เพียงแต่ปกปิดความจริงที่เกิดขึ้น แต่ยังมุ่งหวังทำลายเสถียรภาพความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของไทยในเวทีระหว่างประเทศ

การที่กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่องแต่กลับสื่อสารกับนานาประเทศว่า ตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่ไม่สอดคล้องกับคำพูด สะท้อนถึงความไม่จริงใจและขาดความสุจริตใจในการร่วมแก้ปัญหา การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่บั่นทอนความไว้วางใจ ความพยายามทั้งสองฝ่ายที่จะฟื้นฟูสันติภาพและการสร้างบรรยากาศที่ดีที่จะต่อการเจรจา แต่ยังเป็นอุปสรรคที่จะทำให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติอย่างยั่งยืน

ขณะที่บทบาทของเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลกได้ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงในพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับสถานการณ์และท่าที หลักการสากลที่ไทยยึดถือให้รัฐบาล องค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน ท้องถิ่น ชุมชนไทยได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องที่ไม่บิดเบือนและเข้าใจจุดยืนของไทยที่ต้องการยุติความขัดแย้งด้วยสันติวิธี และกลับเข้าสู่การเจรจากับกัมพูชาบนพื้นฐานของความจริงใจและสุจริตใจ เรายังมีคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ 4 สำนัก คณะผู้แทนถาวรประจำอาเซียนและสถานทูตทูตเอกอัครราชทูตอีกหลายแห่งที่มีหน้าที่ในกรอบพหุภาคีที่ต่างกำลังชี้แจงจุดยืนข้อเท็จจริงในเวทีโลก ภายใต้อนุสัญญาต่าง ๆ เพื่อยึดมั่นต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย

ไทยขอยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ไขข้อพิพาทบนสันติวิธี บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมร่วมมือกับประชาชนระหว่างประเทศในการธำรงสันติภาพและเสถียรภาพ เรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่เป็นการละเมิดหยุดยิง และกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาอย่างสุจริตใจและจริงใจ

นายนิกรเดช ขอวิงวอนให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาล ทุกหน่วยงานได้บูรณาการความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อปกป้องอธิปไตย ฃบูรณภาพดินแดน ศักดิ์ศรี สถานะของไทยระหว่างประเทศ และยึดถือผลประโยชน์และความปลอดภัยของคนไทยไว้เหนือสิ่งอื่นใดเสมอมา

ในช่วงตอบคำถาม นายนิกรเดช ยังกล่าวถึงกรณีที่กัมพูชามีถ้อยแถลงผ่านเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสหภาพรัฐสภาที่ยืนยันว่าไทยเปิดฉากยิงก่อนรวมถึงใช้สารเคมีว่า คำพูดดังกล่าวถือเป็นการบิดเบือนข้อมูล จึงเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการกระทำเช่นนี้ โดยเรื่องดังกล่าวนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาไทยได้ตอบโต้ไปแล้ว ไทยขอแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการกล่าวหาของฝ่ายกัมพูชา

ขณะที่ใช้อาวุธเคมี กระทรวงการต่างประเทศได้ทำการประท้วงและประณามไปที่กัมพูชาแล้ว เพราะเป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากไทยเป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี เรายืนยันว่าเราไม่มีอาวุธเคมีและไม่เคยใช้ ส่วนรูปที่กัมพูชากล่าวอ้างก็เป็นเฟกนิวส์ เข้าใจว่าเป็นภาพการดับไฟป่าในประเทศอื่น เป็นการบิดเบือนข้อมูลโดยโฆษกทหารของกัมพูชา จึงขอให้สื่อมวลชนและสาธารณชนฟังข้อมูลข่าวสารจากทางการของไทย อย่าหลงเชื่อการบิดเบือนข้อมูลจากกัมพูชา

นายนิกรเดช กล่าวถึงกรณี นายฌอน เค. โอนีลล์ ว่าที่ทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เตือนไทยทำสงครามกับเพื่อน เป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา ว่า เป็นการพูดจริง โดยเขาถูกถามโดยการประชุมวุฒิสภา ซึ่งก่อนที่ทูตจะผ่านการรับรองในกระบวนการของสหรัฐอเมริกา จะต้องตอบคำถามของที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่ง เป็นคำถามโดยตรงเกี่ยวกับการเป็นทูตที่ประเทศไทยจะพูดอะไรกับฝ่ายไทยซึ่งเป็นการให้ความเห็นโดยตรงเกี่ยวกับประเทศไทย ซึ่งฝ่ายกัมพูชานำไปปั่นกระแส และผู้เสมือนว่าโจมตีประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่มีการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อย

ส่วนที่กัมพูชามีการเชิญผู้ช่วยทูตทหารและผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่กระทรวงการต่างประเทศมีความกังวลเรื่องนี้หรือไม่ ขณะที่ไทยจะมีการเชิญผู่ช่วยทูตทหารร่วมลงพื้นที่เมื่อไหร่นั้น นายนิกรเดช ระบุว่า การเชิญผู้ช่วยทูตทหารของกัมพูชาถือเป็นสิทธิ์ แต่ยืนยันว่าไม่กังวล ซึ่งหากตนเป็นเขาจะมีความกังวลมากกว่า เพราะเป็นผู้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งจะได้เห็นข้อเท็จจริงในพื้นที่ ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมของไทยกำลังประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะนำผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่ ส่วนที่เหตุใดจึงลงพื้นที่ช้านั้น เพราะเราไม่รู้ว่าฝ่ายกัมพูชาจะมีการละเมิดอีกเมื่อไหร่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของคณะที่เราจะพาลงพื้นที่ โดยคาดว่าน่าจะเป็นวันศุกร์นี้ (1 ส.ค.) รวมถึงสื่อมวลชนด้วย ที่จะได้เห็นสถานที่และข้อเท็จจริงในการทำร้ายประชาชนที่ไม่ใช่ทหารซึ่งน่าจะเป็นหลักฐานให้กับผู้ช่วยทูตทหารโดยเฉพาะกลุ่มอาเซียน มาเลเซีย สหรัฐฯ และจีนซึ่งประเทศเหล่านี้ได้รับเชิญไปทั้งหมดแล้ว เราคิดว่าไม่ใช่เรื่องของความรวดเร็ว แต่เป็นเรื่องของความมั่นใจในด้านความปลอดภัย.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]