ตำรวจเเจ้งข้อหารุ่นพี่รับน้องโหด “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย”

นครราชสีมา  15 มี.ค.- ผกก.สภ.มะเริง เผยแจ้ง 1 ข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” แก่รุ่นพี่ทั้ง 7 ที่รับน้องโหด จนถึงขั้นเสียชีวิต ล่าสุด พ่อและแม่ของน้องเปรม ประสานตำรวจและ รพ.ค่ายสุรนารี นำร่างลูกชายออกจากห้องพักศพ ส่งผ่าพิสูจน์ศพที่สถาบันนิติเวชตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง


จากกรณีนายพัดยศ หรือน้องเปรม นักศึกษา ปวส.ปี 1 แผนกช่างกลโรงงาน มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ถูกรับน้องโหดจนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา และล่าสุด พ่อและแม่ของน้องเปรม ประสานตำรวจและโรงพยาบาลค่ายสุรนารี นำร่างลูกชายออกจากห้องพักศพ ส่งผ่าพิสูจน์ศพที่สถาบันนิติเวชตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง

พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.มะเริง ท้องที่เกิดเหตุ เผยว่ารุ่นพี่ 7 คน ที่ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา 1 ข้อหา คือ “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ก่อนพิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจสอบบันทึกประวัติอาชญากรรม ก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน โดยไม่มีการประกันตัวเพราะ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเอง มีผู้ปกครอง และอาจารย์มหาวิทยาลัย อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินคดี เบื้องต้นทั้ง 7 คน ให้การรับสารภาพ ขณะเดียวกันได้สอบปากคำรุ่นน้องอีก 4 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ประกอบสำนวนคดี


ทางด้านแม่น้องเปรม ไม่เชื่อว่าลูกโดนชกแค่หมัดเดียวจะทำให้เสียชีวิตได้ หลังเกิดเหตุได้คุยกับรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมรับน้องนอกรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว รุ่นพี่ 1 คนใช้หมัดชกเข้าที่หน้าอก 1 ครั้ง จนลูกชายหมดสติล้มฟุบก่อนเสียชีวิตขณะพาส่งโรงพยาบาล ปกติลูกชายเป็นคนแข็งแรง เป็นนักกีฬาฟุตบอล และไม่มีโรคประจำตัวใดๆ หากถูกชกเพียง 1 ครั้ง คงไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ขอให้ตำรวจสอบสวนให้ชัดเจน และจะรอผลตรวจพิสูจน์ร่างน้องเปรม เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด อยากให้ลูกชายเป็นเหยื่อรายสุดท้ายของการรับน้อง ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับผู้ใดซ้ำอีก

ขณะที่ สภ.มะเริง ท้องที่จุดเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ปกครอง พร้อมกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 จำนวน 7 คน ที่ร่วมก่อเหตุ และสอบปากคำเพื่อนน้องเปรมอีก 4 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดี

ซึ่งนายเตอร์ อายุ 19 ปี นักศึกษาปี 1 เพื่อนร่วมชั้นเรียนของน้องเปรม เล่าเหตุการณ์ว่า มีรุ่นพี่กว่า 20 คน ประสานงานรุ่นน้องทั้งชายหญิง 38 คน ไปจัดกิจกรรมในป่า เริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น.ของวันที่ 13 มีนาคม บอกว่าเป็นการรับน้องในรอบปี ก่อนเอารถกระบะ 4-5 คัน นัดหมายสถานที่นอกรั้วมหาวิทยาลัย มารับรุ่นน้องไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นไร่อ้อยโล่งเตียน ห่างจากมหาวิทยาลัย 8 กิโลเมตร จุดเกิดเหตุมืดมาก เพื่อนหลายคนก็พากันหวาดกลัวมีรุ่นพี่สั่งให้เพื่อนเฉพาะผู้ชายถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด เปลือยกายล่อนจ้อน นอนเรียงแถวกับพื้น หากไม่พอใจก็จะถูกชกที่หน้าท้อง หรือถีบหลัง มีการร้องเพลงประจำแผนก ใครร้องผิดเพี้ยนก็จะถูกทำโทษ ทั้งเตะ ถีบ ชก แต่ไม่มีการให้ดื่มสุรา ตนก็ยังโดนรุ่นพี่ทำร้ายโดยการชกที่หน้าท้องหลายครั้ง ถีบด้านหลังจนหัวคะมำ และคลานปลาหมอ หรือไถร่างไปกับพื้นดินแข็ง หัวไหล่และข้อศอกเป็นแผล จนเพื่อนหลายคนออกอาการหวาดกลัว


ตนก็อยู่ในเหตุการณ์ตอนเปรมโดนชก ยืนห่างกัน 5 คน เวลารุ่นพี่เดินผ่าน พากันกลัว ซึ่งเปรมโดนหนักหลายรอบเช่นเดียวกับตน ทั้งชกหน้าท้อง หน้าอก ไปหลายรอบ ถูกชกด้วยมือเปล่า จนตนถามเปรมว่า “ไหวหรือไม่” จนมีรุ่นพี่ ไม่ทราบว่าคนไหน เพราะมืด ชกเข้าที่ลิ้นปี่ของเปรม จนล้มทรุดกองกับพื้นและหมดสติไป แม้พยายามช่วยชีวิตและพาส่งโรงพยาบาลตอน 5 ทุ่ม สุดท้ายเพื่อนทนความเจ็บปวดไม่ไหว เสียชีวิตในที่สุด

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยฯ ออกแถลงการณ์ยืนยันไม่มีนโยบายให้รับน้อง ตั้งแต่ปี 64 โดยมหาวิทยาลัยได้รับทราบเหตุการณ์เศร้าสลดที่เกิดขึ้น และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวนักศึกษาที่สูญเสีย และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิดเพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวผู้กระทำผิดเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินคดีถึงที่สุดต่อไป เรื่องนี้ถือว่าเป็นการขัดระเบียบคำสั่งของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรง และจะต้องมีบทลงโทษนักศึกษาผู้ร่วมก่อเหตุทุกคนอย่างถึงที่สุด รวมทั้ง มหาวิทยาลัยพร้อมช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวนักศึกษาที่เสียชีวิตทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

ล่าสุด ร่างน้องเปรมส่งถึงนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจแล้ว ซึ่งพบว่า มีเชื้อโควิด-19 อยู่ในร่างกาย ซึ่งในการชันสูตรจะมีขั้นตอนที่มากขึ้น โดยพ่อ ยืนยัน จะดำเนินคดีกับรุ่นพี่โหดที่เป็นต้นเหตุทำให้ลูกชายเสียชีวิตจนถึงที่สุด และอยากรับทราบรายละเอียดการเสียชีวิตของผู้ชาย ว่าถูกทารุณกรรมในลักษณะอย่างไรจึงเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี ตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเร่งเทปูน 500 ลบ.ม. อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติม

กทม. 25 ก.ย.-ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ “เขตภัยพิบัติ” เป็นประกาศตามเหตุการณ์ ไม่ได้ระบุระยะทาง เร่งเทปูน 500 ลูกบาศก์เมตร อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติมจุดทรุด เตรียมกระสอบทราย-เครื่องสูบน้ำรับมือทันที นายชัชชาติ สิทธพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุดตัวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาว่า นายกฯ ได้ติดตามสั่งการทุกหน่วยงานมาโดยตลอด ทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง และได้รับความร่วมมือร่วมใจที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงภาคส่วนเอกชนต่างๆ อีกด้วย ทำให้เหตุการณ์รอบนอกเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว เหลือเพียงข้างในที่เป็นเรื่องเชิงเทคนิค นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ หลังเกิดเหตุ 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน และไม่ได้สั่งให้เตรียมการต้อนรับแต่อย่างใด ท่านมาแบบตามสบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่ท่านนายกฯ ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพูดคุยให้กำลังใจกัน มีปัญหาอะไรก็คุยกัน นายชัชชาติ เปิดเผยอีกว่า วันนี้จะมีการเทปูนลง 500 ลูกบาศก์เมตรไปในถนนทรุด แต่สิ่งที่ต้องมีการประเมินต่อคือ ปูนไหลลงไปในอุโมงค์เท่าไร เนื่องจากยังอุดกระสอบทรายได้ไม่เต็มที่ จึงมีปูนบางส่วนที่ไหลไปในอุโมงค์หรือสถานี อุปสรรคคือการเทปูนไปแล้วไม่ลงตรงจุด เนื่องจากปูนจะไหลไปในจุดที่ต่ำสุดเช่นเดียวกับการไหลของดิน […]

รฟม.-ผู้รับจ้าง เร่งแก้ไขถนนทรุด ยันเยียวยา ปชช.เต็มที่

กรุงเทพ 25 ก.ย. -รฟม.-ผู้รับจ้าง เร่งแก้ไขถนนทรุด หน้า รพ.วชิรพยาบาล คืนสภาพการจราจรภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วย กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที – พีแอล และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงาน PMCSC 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ร่วมแสดงเจตจำนงขออภัยประชาชนทุกท่านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นมา โดย รฟม. และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา ยืนยันพร้อมรับผิดชอบ ดูแลแก้ไขปัญหาให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเยียวยาประชาชน ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อย่างดีที่สุด โดย รฟม.ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยจะเร่งประชาสัมพันธ์ และลงพื้นที่ดูแลทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบทันที นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้ รฟม. ตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของ รฟม. เพื่อยืนยันความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้าง […]

สภาฯ เคาะวันแถลงนโยบายรัฐบาล 29-30 ก.ย.นี้

รัฐสภา 25 ก.ย.-สภาฯ เคาะวันแถลงนโยบายรัฐบาล 29-30 ก.ย.นี้ ฝ่ายค้านได้เวลา 15 ชั่วโมง “ปกรณ์วุฒิ” ลั่นแบ่งพอๆ กัน ปชน. 9 ชั่วโมง เพื่อไทย 6 ชั่วโมง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมร่วมวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี สส. และ สว. พิจารณาแนวทางดำเนินการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในการแถลงนโยบายรัฐบาล ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนส่งถึงประธานรัฐสภา ว่า มีความพร้อมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ภายหลังประชุม ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบกำหนดวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 29-30 กันยายนนี้ โดยจะเริ่มอภิปรายในเวลา 09.00 น. ทั้งสองวัน แต่วันที่สองจะให้จบการอภิปรายในเวลา 18.00 […]