เชียงใหม่ 3 มี.ค.- นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ยันผู้ป่วยโควิด-19 ยังไม่ได้รับผลกระทบมากจากค่า PM 2.5 ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสวมใส่แมสก์ป้องกันอยู่แล้ว แต่เตือนคนป่วยโรคปอด หอบหืด ให้หมั่นตรวจค่า PM 2.5 หากขึ้นสูงต้องเพิ่มการดูแลตัวเอง
นายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ค่า PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ตอนนี้ค่า PM 2.5 ยังขึ้นไม่มาก แม้อันดับจะเริ่มขึ้นไปอยู่ในลำดับต้นๆ ถึงอันดับที่ 11 ของโลกแล้ว ซึ่งค่า PM 2.5 พบว่าจะมีมากในช่วงเดือนมีนาคม เพราะมีการเผากันมากขึ้นในช่วงนั้น และหากผู้ป่วยที่เป็นโรคปอด โรคปอดอักเสบเรื้อรังและหอบหืด ได้รับเข้าไปในร่างกายมากๆ อาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าคนทั่วไป ทำให้อาการกำเริบรุนแรงได้ ดังนั้น จึงขอให้คนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอดและหัวใจ รวมถึงเด็กเล็กและผู้สูงอายุ จะต้องระวังตัวเป็นพิเศษ
สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนมากจะกักตัวอยู่ที่บ้านและก็สวมใส่แมสก์อยู่แล้ว จึงไม่ได้เป็นปัญหามากนัก ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นปอดอักเสบ ปัจจุบันโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์เดลตา ทำให้มีผู้ป่วยปอดอักเสบไม่ถึงร้อยละ 5 และทุกรายได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเรื่อง PM 2.5
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าปัจจุบันในระดับตำบลและระดับหมู่บ้าน มีการติดตั้งอุปกรณ์วัดค่า PM 2.5 และรายงานค่าระดับ PM 2.5 ผ่านเครือข่ายชุมชนเกือบทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัวป้องกันตามหลักสาธารณสุขได้เป็นอย่างดี พร้อมย้ำว่าค่า PM 2.5 ที่กระทบกับเรามากที่สุด คือ ค่าที่ใกล้ตัวเราที่สุด ไม่ใช่ค่า PM 2.5 ของภาพรวมทั้งหมด จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนชาวเชียงใหม่ จะต้องหมั่นสังเกตค่า PM 2.5 ที่อยู่ใกล้ตัว และการปกป้องตัวเองที่ดีที่สุด คือการสวมใส่แมสก์ ซึ่งแมสก์ปกติที่ไม่ใช่ เอ็น 95 สามารถปกป้อง PM 2.5 ได้ร้อยละ 50 หากใส่ 2 ชั้นก็จะได้ประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น หรือหากทำได้ควรหลีกเลี่ยงไปสถานที่ที่มีค่า PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน .-สำนักข่าวไทย