fbpx

บุกจับร้านอาหารลักลอบจำหน่ายบารากู่

สงขลา 8 ม.ค. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ และตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา บุกจับร้านอาหารและร้านชา ลักลอบจำหน่ายบารากู่ให้ลูกค้า พบวัยรุ่นทั้งชายและหญิงจำนวนมากใช้บริการ


เวลาประมาณ 23.30 น. คืนวานนี้ (7 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงอำเภอหาดใหญ่ ร่วมกับตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่ ตรวจค้นร้านขายอาหารและน้ำชา ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 4 ชั้น แต่จากการสืบสวนและเข้าตรวจค้นพบว่าบริเวณชั้น 3 กั้นเป็นห้อง 4 ห้อง ลักลอบจำหน่ายบารากู่ให้ลูกค้า ขณะเข้าตรวจค้นมีลูกค้ามาใช้บริการเต็มทั้ง 4 ห้อง ห้องละ 4-5 คน แต่ละห้องมีอุปกรณ์สูบบารากู่ห้องละ 1 ชุด

การเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่าร้านดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายบารากู่ให้กับลูกค้า จากการสอบถามลูกค้าที่มาใช้บริการบอกว่ารู้จักร้านนี้มาจากเพื่อน ถ้าใครต้องการใช้บริการต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเจ้าของร้านชื่อนายซอลาฮุดดิน พร้อมลูกค้าที่มาใช้บริการอีก 18 คน ทั้งชายและหญิง มาสอบสวนเพิ่มเติมและทำบันทึกการตรวจค้น พร้อมทั้งยึดอุปกรณ์การเสพบารากู่จำนวน 6 ชุด


เบื้องต้นแจ้งข้อหาเจ้าของร้าน 3 ข้อ คือ 1.มีไว้เพื่อขายยาสูบหรือยาเส้นที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ ตาม พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ. 2509 2.ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดี หรือเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ตาม พ.ร.บ.ศุลการ พ.ศ. 2560 และ 3.ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า”

ส่วนลูกค้าที่มาใช้บริการแจ้งข้อหาฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุมฯ การมั่วสุมฯ ฉบับที่13 ข้อ 2 ห้ามมิให้มีการมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคฯ ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง