ตรัง 12 พ.ย. – ช่างเย็บผ้าวัย 38 ปี หันมาเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่สีทองขาย สร้างรายได้ ลูกค้าสั่งจองเยอะ เพราะเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ใน จ.ตรัง ยังไม่มีใครเลี้ยงเป็นอาชีพ รสชาติเหมือนหมึก ได้ฉายาว่าเป็นหอยเป๋าฮื้อน้ำจืด เลี้ยงง่ายโตไว กำไรดี
น.ส.ดวงพร สันติเพชร หรือ ขวัญ อายุ 38 ปี อาชีพรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า ใช้พื้นที่ว่างข้างบ้าน อ.นาโยง จ.ตรัง ทำบ่อพลาสติกขึ้นมาหลายบ่อ เลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง หรือหอยโข่งเหลืองจำนวนหลายพันตัว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อยอดการสั่งซื้อจากลูกค้าทั้งในและต่างจังหวัด เนื่องจากในจังหวัด เธอเป็นเกษตรกรรายแรกที่เพาะเลี้ยงหอยเชอรี่สีทองขายทางออนไลน์ ราคาตั้งแต่คู่ละ 30-100 บาท แล้วแต่ขนาด
เธอบอกว่า เห็นเพื่อนเลี้ยงไว้ดูเล่นในตู้ปลา จึงเกิดความสนใจ เพื่อนจึงสั่งซื้อมาให้จากภาคอีสานในราคาตัวละ 50 บาท จำนวน 50 ตัว และศึกษาวิธีการเลี้ยงอย่างจริงจัง กระทั่งหอยเชอรี่สีทองวางไข่ เป็นสีชมพูอ่อน ๆ คล้ายไข่ของหอยเชอรี่ทั่วไป ทิ้งไว้ประมาณ 45-50 วัน ก็เริ่มจับขายได้แล้ว สร้างรายได้ ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อวัน
หอยเชอรี่สีทองนับว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่ลี้ยงง่ายกว่าหอยโข่ง หรือหอยขม อัตราการตายน้อย กินพืชผักที่อวบน้ำ เช่น ผักบุ้ง ใบหม่อน ตะไคร้น้ำ แหน ผักตบชวา ต้นข้าว เศษซากสัตว์ขนาดเล็กและอื่น ๆ โตเร็ว เนื้อกรุบ ๆ นุ่ม หวานมัน ไม่เหนียว ไม่มีกลิ่นคาว รสชาติคล้ายหมึก และได้ชื่อว่าเป็นหอยเป๋าฮื้อน้ำจืด สามารถนำไปทำส้มตำ ต้ม ผัด แกง ทอดหรือลวกจิ้มได้ โดยใช้เวลาปรุงสุกแค่ 1 นาที ก่อนใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเนื้อออกมา ส่วนหัวยังเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยา โปรตีนสูง อุดมด้วยวิตามินหลายชนิด มีธาตุเหล็ก ไอโอดีน และแคลเซียม แต่ไม่ควรกินดิบ ส่วนเปลือกหอยนำมาทำปุ๋ยบำรุงดินและต้นไม้ให้สวยงามได้ด้วย. – สำนักข่าวไทย