ตรัง 24 ม.ค.-สาวตรังช่างเย็บผ้า ตกงานจากพิษโควิด-19 พลิกวิกฤติเป็นโอกาส หันมาเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง จนสร้างรายได้หลักหมื่นต่อสัปดาห์ ยังรวยไม่พอ ต่อยอดนำเสนอขายผัดไทยหอยเชอรี่สีทองรายแรกในจ.ตรัง หวังให้เกษตรกรที่ว่างงานรวมกลุ่มกันเลี้ยง โดยเจ้าตัวตั้งโต๊ะรับซื้อไม่อั้น
น.ส.ดวงพร สันติเพชร หรือขวัญ อายุ 39 ปี จากสาวช่างเย็บผ้าตกงาน พลิกผันตัวเองมาเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่สีทองขาย เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากเริ่มเลี้ยงครั้งแรกประมาณ 500 ตัวผ่านไป 6 เดือนมีพ่อแม่พันธุ์พร้อมขายอยู่ถึง 10,000 คู่ โดยเริ่มขายในราคาคู่ละตั้งแต่ 28-100 บาทแต่แล้วไซซ์ ทำให้เธอกลายเป็นเกษตรกรรายแรกที่มีฟาร์มหอยเชอรี่สีทองมากที่สุดใน จ.ตรัง
น.ส.ดวงพร สร้างรายได้กว่า 10,000 บาทต่อสัปดาห์ โดยลูกค้ามาจากทั่วทุกภาคของประเทศ มีบริการส่งออนไลน์และต้มสุกแกะเนื้อ ส่งขายในร้านอาหารและโรงแรมหลายแห่งใน จ.ตรัง ทำให้ผลผลิตมีไม่เพียงพอ จึงได้ชักชวนเกษตรกรหันมาเลี้ยงหอยเชอรี่สีทองกันมากขึ้น พร้อมรับซื้อคืนในราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 120-500 บาท เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการสูงมาก มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย เพราะหอยมีรสชาติหอม หวาน มัน หนึบๆ คล้ายเนื้อปลาหมึก ไม่คาวและกินได้ทั้งตัว ยกเว้นเปลือกยังสามารถเอาไปทำปุ๋ยใส่ต้นไม้ได้เป็นอย่างดี หอยเชอรี่สีทองจึงได้ชื่อว่า “หอยเป๋าฮื้อน้ำจืด” โดยเลี้ยงประมาณ 2-3 เดือน ก็จับกินและขายได้แล้ว
ตอนนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่สีทองแล้วกว่า 30 ราย ทั้งชาวจ.ตรัง และต่างจังหวัด คาดอีกไม่เกิน 6 เดือนข้างหน้า จะมีหอยเชอรี่สีทองออกสู่ตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้คุณขวัญยังเป็นคนที่ชอบทำอาหารและทำน้ำราดผัดไทยสำเร็จรูป ที่เป็นสูตรเฉพาะของตัวเองขาย จึงต่อยอดเมนูผัดไทยธรรมดา ให้กลายเป็นผัดไทยหอยเชอรี่สีทอง เตรียมนำออกขายเป็นรายแรกใน จ.ตรัง เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้า ที่ไม่เคยกินหอยเชอรี่สีทองให้ลองมากิน พร้อมเตรียมนำหอยเชอรี่สีทองมารังสรรค์อีกหลากหลายเมนู โดยจะนำออกจำหน่ายในร้านของตัวเองในเร็วๆ นี้ เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาเพาะเลี้ยงกันมากขึ้น และนำกลับมาส่งขายเป็นรายได้เสริมในอนาคต หรือเลี้ยงไว้กินเองในครัวเรือน ซึ่งเป็นการลดรายจ่ายได้อีกทางหนึ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย