นครศรีธรรมราช 29 เม.ย.-ชาวบ้านงง เจ้าคณะจังหวัดกล่าวหาใช้อิทธิพลทุบทำลายกำแพงวัด หวังผลประโยชน์ ยันทำเพื่อวัด เพราะทางเข้าออกเดิมชำรุด และมีรถโรงเรียนจอดเต็มจนไม่สะดวก
จากกรณีที่ พระราชปริยัติเวที เจ้าอาวาสวัดมุมป้อม และเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกมาเรียกร้องให้ช่วยเหลือพระพุทธศาสนาโดยระบุว่า มีกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช บุกรุกวัดอินทาราม หมู่ 3 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง ตัดต้นไม้ทุบทำลายกำแพงวัด และนำเสาปูนไปปักกั้นพื้นที่ภายในวัดเป็นของตัวเองโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
วันนี้ (29 เม.ย.64) ที่วัดมุมป้อม อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถาม เจ้าอาวาสวัดมุมป้อมเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยพระราชปริยัติเวที หรือ “เจ้าคุณเจือ” กล่าวถึงต้นตอของปัญหาว่า เกิดจากเมื่อหลายสิบปีก่อนวัดอินทาราม ได้บริจาคที่ดินให้จัดตั้งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 6 และโรงเรียนอนุบาลวัดอินทารามสงเคราะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา แต่มีกลุ่มบุคคลต้องการให้ทางวัดยกเลิกโรงเรียนอนุบาลวัดอินทารามสงเคราะห์ อ้างว่าโรงเรียนเป็นของเอกชนมาเบียดบังเอาที่ดินและผลประโยชน์ของวัด โดยเชื่อว่าหากกดดันให้ยกเลิกโรงเรียนการกุศลของวัดสำเร็จ คนกลุ่มนี้จะรับผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง
ทางด้านนายสมคิด ไชยคชเดช ชาวบ้าน ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กล่าว่า ตนเป็นผู้นำชาวบ้านที่ได้ตั้งให้เป็นผู้นำในเรื่องนี้ โดยมีปัญหามาจากรถโรงเรียนที่เข้าออกในวัดวันละหลายรอบ ส่งผลให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง รวมถึงเวลามีงานของวัดจะไม่มีที่จอดสำหรับคนที่มาร่วมกิจกรรม เพราะครูของโรงเรียนนำรถเข้ามาจอดเต็มวัด ต่อมาชาวบ้านได้หารือกันว่าน่าจะทุบกำแพงทำทางเข้าวัดแทนทางเดิมเพื่อความสะดวก จึงบอกกับพระที่อยู่ภายในวัดและได้ช่วยกันดำเนินการทุบกำแพงเพื่อจะทำถนนเข้าออกโดยชาวบ้านก็ได้ลงขันเงินกันเอง ซึ่งเป็นประโยชน์กับสาธารณะ
ล่าสุดผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.กะปาง เข้าไปตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อดำเนินการสอบสวนถึงบุคคลที่ถ่ายภาพเหตุการณ์ทุบกำแพงวัด นอกจากนี้ทางฝ่ายปกครองมอบหมายให้นายอำเภอทุ่งสงเข้าพบ ผกก.สภ.กะปาง ตรวจสอบ ติดตาม เรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีการนัดหมายหารือกันในวันที่ 4 พ.ค.64 ที่ สภ.กะปาง เพื่อให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย