ตำรวจหึงโหดบุกยิงอดีตเมียในร้านอาหารดับ 2 สาหัส 1

บุรีรัมย์ 30 พ.ย.-ดาบตำรวจปืนโหดบุกยิงอดีตภรรยาคาร้านอาหาร ทำให้เพื่อนอดีตภรรยาเสียชีวิต 2 คน ส่วนอดีตภรรยาบาดเจ็บ หลังก่อเหตุยืนรอมอบตัว คาดปมยิงถล่มมาจากเรื่องหึงหวง


พนักงานสอบสวน สภ.โนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลตำบลโนนสุวรรณ ห่างจากที่ว่าการอำเภอโนนสุวรรณ ประมาณ 200 เมตร ในที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียว เปิดเป็นร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มชื่อร้าน “กินข้าวบ้านเพื่อน” พบผู้บาดเจ็บสาหัส 3 คน คือ นางสาวนุชจรินทร์ แก้วจัตุรัส พยาบาล รพ.โนนสุวรรณ, นายจรัญ สุขวงกฎ อายุ 42 ปี และนางสมคิด สุขวงกฎ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล แต่นายจรัญและนางสมคิด สามีภรรยาทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต ส่วนนางสาวนุชจรินทร์ อาการสาหัส ถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และจากการตรวจสอบพบกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 3 นัด และปลอกกระสุนอีกจำนวนหลายปลอก

สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุใช้ปืนกระหน่ำยิง คือ ดาบตำรวจอร่าม สังข์ชัย อายุ 44 ปี ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สภ.โนนสุวรรณ ซึ่งเป็นสามีของนางสาวนุชจรินทร์ ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และหลังก่อเหตุได้เข้ามอบตัวพร้อมปืนขนาด 9 มม.
พยานในที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทำให้คนในร้านต่างแตกตื่นตกใจ จากนั้นได้พบเห็นพลเมืองดีวิ่งเข้าไปปั๊มหัวใจชายที่มีอาการบาดเจ็บแต่ไม่มีสัญญาณชีพ ก่อนเรียกเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ส่วนมูลเหตุไม่มีใครทราบแน่ชัด


จากการสอบสวนทราบว่า ดาบตำรวจอร่าม ผู้ก่อเหตุ ได้หย่าร้างกับนางสาวนุชจรินทร์ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นอดีตภรรยา แต่ยังอยู่บ้านหลังเดียวกันเพราะมีลูกด้วยกัน 2 คน โดยดาบตำรวจอร่าม เพิ่งเดินทางลับมาจากไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความเรียบร้อยเหตุชุมนุมที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน สาเหตุเบื้องต้นคาดว่า ดาบตำรวจอร่าม อาจหึงหวงอดีตภรรยา จึงก่อเหตุ ส่วนสองสามีภรรยาที่ถูกยิงเสียชีวิต ทราบว่าได้หุ้นกับเปิดร้านอาหารที่เกิดเหตุกับนางสาวนุชจรินทร์ ขณะที่ปมสังหารอื่นๆ อยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะขณะนี้ผู้ต้องหายังอยู่ในอาการเครียด แต่เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ