ภูเก็ต 3 มี.ค. – เหตุการณ์ชาวสวิส เช่าวิลล่าหรูริมหาดยามู อยู่กับภรรยาชาวไทย อ้างสะดุดล้มไปโดนคุณหมอที่มานั่งตรงบันไดชายหาด ตอนนี้ลามเหมือนไฟไหม้ทุ่ง หลังคนไทยที่อยู่ในภูเก็ตไม่พอใจการกระทำดังกล่าว วันนี้มีการนัดรวมพลบนชายหาดยามู เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทวงคืนชายหาดสาธารณะ
ประชาชนใน จ.ภูเก็ต พร้อมใจกันเปล่งเสียงร้องเพลงชาติไทย พร้อมกับโบกสะบัดธงชาติไทย ขณะยืนอยู่บนบันไดหน้าวิลล่าหรู บนชายหาดยามู หมู่ที่ 7 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จุดที่แพทย์หญิง พร้อมเพื่อน มานั่งพักชมแสงจันทร์ ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะถูกชาวสวิส วัย 45 ปี และภรรยาชาวไทย เข้ามาด่าทอ พร้อมอ้างว่าสะดุดล้มไปโดนตัวคุณหมอ จนกลายเป็นข่าวฉาวอยู่ในเวลานี้
ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนบนชายหาดยามู ที่ประชาชนจากทั่วสารทิศมารวมตัวกันหลายร้อยคน ที่สำคัญไม่ได้มีเฉพาะชาวภูเก็ต แต่ยังมีคนไทยจากต่างจังหวัดเดินทางมาร่วมสมทบด้วย บางคนนำข้าวห่อ ขนมนมเนย และน้ำดื่ม มาแจกจ่ายให้กัน บางคนนำเสื่อมาปูนั่งตามริมหาด เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า ชายหาดสาธารณะเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ ของแผ่นดินไทย ประชาชนคนไทยทุกคนต้องมีสิทธิในการเข้าถึง ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม และต้องไม่เฉพาะแค่ชายหาดยามูเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงชายหาดทุกแห่งที่เป็นพื้นที่สาธารณะในประเทศไทยด้วย
ที่ผ่านมา ชายหาดยามู ไม่ได้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาเยือนภูเก็ต จะมีก็แต่เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มานอนพักค้างโรงแรมที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง รวมถึงวิลล่าหรูที่ปัจจุบันมีการสร้างขึ้นตลอดแนวชายหาดยามู เฉลี่ยราคาขายต่อหลังไม่ต่ำกว่า 300-400 ล้านบาท จนทำให้หาดแห่งนี้มีลักษณะคล้ายหาดลับ หรือชายหาดส่วนตัว แต่ชาวบ้านยามูรู้จักหาดแห่งนี้ดี เพราะมักจะมาจับสัตว์น้ำ มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา หน้าหาดเป็นประจำ เพราะพื้นที่บริเวณนี้ยังคงความอุดมสมบูรณ์
ในอดีตชาวบ้านบอกว่า ราว 10 กว่าปีก่อน ช่วงที่มีการก่อสร้างวิลล่าใหม่ๆ โครงการเคยมีข้อพิพาทเรื่องทางเดินสาธารณะลงชายหาดกับชาวบ้าน แต่สุดท้ายก็เจรจากันได้ข้อยุติ เป็นที่มาของการสร้างทางลอดอุโมงค์ไม้ไผ่เป็นทางสาธารณะจำยอมที่ใช้กันอยู่ในตอนนี้ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ตั้งข้อสังเกตว่า อาจไม่ได้มีเฉพาะแค่วิลล่าหลังที่กำลังเป็นข่าวฉาวที่สร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ แต่อาจมีวิลล่าหรูหลังอื่นๆ ตลอดแนวชายหาดยามู ที่มีการก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่ชายหาดสาธารณะ รวมถึงบางจุดที่มีการเข้าไปตัดทำลายต้นไม้บนชายหาดสาธารณะ เพื่อไม่ให้บดบังวิวทิวทัศน์ของวิลล่าตัวเองด้วย ซึ่งเรื่องนี้ขอเรียกร้องให้ทางการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเร่งตรวจสอบ เพื่อคืนพื้นที่สาธารณะทั้งหมดให้กับประชาชนคนไทยทุกคน
ปัจจุบัน จ.ภูเก็ต มีชายหาดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักกันดีราว 19 ชายหาด กระจายอยู่ครอบคลุมทั่วทั้ง 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.กะทู้ และ อ.ถลาง โดยหาดที่ได้รับความนิยมอย่างหาดป่าตอง ไตรตรัง กะหลิม กมลา กะตะ กะรน ราไวย์ ในหาน ยะนุ้ย บางเทา เชิงทะล ในยาง และไม้ขาว ส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างราคาแพง ทั้งโรงแรมที่พักรีสอร์ต คอนโดฯ และวิลล่า
ส่วนหาดสาธารณะที่ยังคงเป็นพื้นที่สีเขียวให้ประชาชนได้เข้าใช้ประโยชน์โดยไม่มีโรงแรมวิลล่า ปัจจุบันเหลือน้อยเต็มที หากเป็นโซนฝั่ง อ.ถลาง ที่ยังพอมีหลงเหลือให้เห็นอยู่ คือ ชายหาดท่าหลา ในพื้นที่หมู่ 8 ต.ป่าคลอก ซึ่งชาวบ้านบอกว่า ในอดีตเกือบกลายเป็นแหล่งปลูกสร้างของวิลล่าและโรงแรมไปแล้วเช่นเดียวกัน แต่ด้วยการรวมพลังกันอย่างเข้มแข็งของชุมชน ทำให้ยังคงรักษาพื้นที่สาธารณะตลอดแนวชายหาดท่าหลาไว้ให้ทุกคนได้พักผ่อน ส่วนชายหาดยามู ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกับชายหาดท่าหลา ปัจจุบันมีข้อมูลว่า กว่าร้อยละ 50 กลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติที่แต่งงานกับภรรยาคนไทย และทุ่มเงินหลักร้อยล้านบาทเพื่อเป็นเจ้าของวิลล่าวิวชายหาดนี้เอง รวมถึงการเช่าอยู่อาศัยในราคาหลักแสนปลายๆ ถึงหลักล้านบาทต่อเดือน แบบเดียวกันกับที่นายเดวิด ชาวสวิส เช่าอาศัยอยู่กับภรรยาชาวไทย.-สำนักข่าวไทย