“เสี่ยแป้ง” ยังล่องหน ระดมล่า ปูพรมตรวจโรงแรม-รีสอร์ต กว่า 100 แห่ง

25 ต.ค. – “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ยังล่องหน ระดมเร่งล่า ตรวจโรงแรม-รีสอร์ตกว่า 100 แห่ง ควานหาตัว ตำรวจเชิญนายก อบต.สตูล สอบข้อมูลกลางดึก หลังพบข้อมูลโยงเสี่ยแป้งและลูกน้อง ด้าน รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่เรือนจำนครศรีธรรมราช ติดตามความคืบหน้าคดี


กรณีนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด หลบหนีออกจากการคุมขังของเจ้าหน้าที่จาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา และพบว่าหลังจากปลดพันธนาการ และลงลิฟต์มาได้ ก็มีรถมารับพาตัวหลบหนีไป เบื้องต้นพบว่าคนที่มารับชื่อนายจีรวุฒิ หรือบอย และนายจักรี หรือบิ๊ก โดยนายจักรี นั่งรอในรถ ก่อนที่เสี่ยแป้งจะขึ้นรถกระบะสี่ประตูสีขาว ทะเบียน 8 กจ 3212 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป โดยการหลบหนีนั้น ตามภาพวงจรปิดมีรถยนต์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 3 คัน ประกอบด้วย รถกระบะมิตซูบิชิ สีขาว รถกระบะอีซูซุ สีขาว และรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ จนเข้าสู่วันที่ 4 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่อาจติดตามจับกุมเสี่ยแป้ง และลูกน้องอีก 2 คนได้ ที่คุมตัวได้ตอนนี้ คือ นางยุวเรศ หรือ “หมวย” ผู้ที่โอนเงินให้ น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม ที่ถูกจ้างวานให้เฝ้า “เสี่ยแป้ง” ที่โรงพยาบาล

ตรวจโรงแรม-รีสอร์ตกว่า 100 แห่ง ควานหาตัว “เสี่ยแป้ง-ลูกน้อง”
ขณะที่ตำรวจยังคงวางแผนสืบหาข่าวแหล่งกบดานของกลุ่มผู้ต้องหา พร้อมกระจายกำลังเจ้าหน้าที่เข้ากดดันหลายพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง ตามเส้นทางที่ปรากฏการเคลื่อนไหวของรถกระบะอีซูซุ สีขาว และรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีดำ นอกจากนี้ได้ให้ตำรวจทุก สภ.ใน 11 อำเภอ ของพัทลุง ออกตรวจโรงแรม รีสอร์ต ในพื้นที่กว่า 100 แห่ง และตรวจสอบรายชื่อของผู้เข้าพัก เพื่อหาเบาะแสกลุ่มผู้ต้องหา


จากการข่าวของเจ้าหน้าที่เมื่อช่วงก่อนรุ่งวันที่ 23 ตุลาคม พบสัญญาณโทรศัพท์มือถือและรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีดำ บนเส้นทางถนนสายเพชรเกษม บนภูเขาพับผ้า เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดตรัง-พัทลุง จากนั้นสัญญาณโทรศัพท์มือขาดหายไป ส่วนรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีดำ ก็ออกจากพื้นที่ตำบลบ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง คาดว่ากลุ่มผู้ต้องหาน่าจะลงจากรถยนต์เดินเท้าเข้ากบดานบนพื้นที่ป่าเขาบรรทัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกหาข่าวในทุกด้าน พร้อมให้ชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น แจ้งเบาะแส หากมีกลุ่มคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่

ส่วนรถกระบะมิตซูบิชิ สีขาว มีรายงานข่าวว่าพบในพื้นที่อำเภอมะนัง จ.สตูล และพบป้ายทะเบียนถูกถอดทิ้งในพื้นที่ และพบว่าเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม กระบะอีซูซุสีขาว กลับไปเคลื่อนไหวในพื้นที่อำเภอวังวิเศษ จ.พัทลุง ซึ่งทำให้คาดกลุ่มผู้ต้องหาพยายามแยกย้ายกันหนี

เชิญนายก อบต.สตูล สอบ หลังพบข้อมูลโยง “บอย”
จากกรณีเจ้าหน้าที่พบเบาะแสรถกระบะมิตซูบิชิ สีขาว ในพื้นที่ จ.สตูล เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบหลักฐานจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดจุดหนึ่งในจังหวัดสตูล พบนายจีรวุฒิ หรือบอย ได้พบกับนายก อบต.คนหนึ่งของอำเภอมะนัง จ.สตูล


พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผช.ผบ.ตร. สั่งการให้ชุดสืบสวนภาค 9 ตรวจสอบจนพบว่านายจีรวุฒิ ขับรถคันดังกล่าวไปพร้อมภรรยาและลูก เพื่อไปขอความช่วยเหลือขอที่พักพิงจากนายก อบต.คนดังกล่าว ชุดสืบสวนจึงเชิญตัวนายก อบต.มาให้ข้อมูล โดยติดตามตัวนายก อบต.ได้ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ ซึ่งมีรายงานว่าเป็นพาหนะพานายจีรวุฒิ พร้อมภรรยาและลูกไปหลบพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเก็บวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ภายในรถคันดังกล่าวด้วย ซึ่งนายก อบต.ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวนอย่างมาก แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด และนายก อบต.คนดังกล่าวได้เดินทางกลับไปจังหวัดสตูล ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาแล้ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทางคดีให้ข้อมูลว่า นายจีรวุฒิ หรือบอย เป็นลูกน้องที่ติดตามใกล้ชิดเสี่ยแป้ง ในขณะนี้ทั้งคู่มีอาวุธติดตัว ยังอยู่ในไทย ยังไม่ออกนอกประเทศตามที่เป็นข่าว

สอบ “หมวย” เพิ่ม ก่อนคุมตัวฝากขัง
ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมไว้แล้ว 2 คน คือ น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม ผู้รับจ้างเฝ้าไข้ และนางยุวเรศ หรือหมวย ซึ่งทั้งคู่ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันกระทำการด้วยประการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หลุดพ้นจากการคุมขังไป” ช่วงเช้าที่ผ่านมายังถูกคุมตัวอยู่ที่ห้องควบคุม สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำนางยุวเรศ เพิ่มเติมในวันนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากนั้นจะคุมตัวทั้งคู่เข้าขออำนาจศาลนครศรีธรรมราช ฝากขังผัดแรก

รมว.ยธ. ลงพื้นที่เรือนจำนครศรีฯ ติดตามคดี “เสี่ยแป้ง”
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี ที่เรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ประชุมกับทุกฝ่าย ระบุเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ หากเราไม่ทำความจริงให้ปรากฏก็จะส่งผลต่อการขาดความเชื่อมั่นต่อกรมราชทัณฑ์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน