ตร. 5 มิ.ย. – โฆษก ตร. เผยทุกหน่วยงานจ่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติด “เสี่ยแป้ง” ยอมรับตำรวจต้องถอดบทเรียนกรณีนี้ ปัดตอบกรณี บช.น.ทวงคืนสำนวนคดี “บิ๊กโจ๊ก” จาก ป.ป.ช. ย้ำเป็นดุลยพินิจของคณะพนักงานสอบสวน
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีที่นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ ว่า ขณะนี้กระบวนการการสอบปากคำ และการแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด ซึ่งตำรวจได้ส่งตัวเสี่ยแป้ง ให้กับกรมราชทัณฑ์ไปแล้ว แต่ถ้าหากพนักงานสอบสวนมีประเด็นใดที่สงสัยหรือต้องการจะสอบเพิ่มเติมก็จะประสานกับกรมราชทัณฑ์เพื่อเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมในเรือนจำอีกครั้ง
ส่วนเรื่องของการขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของเสี่ยแป้งนั้น ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้บูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมการค้นหาเครือข่ายยาเสพติดรวมถึงผู้ที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนเสี่ยแป้ง ส่วนกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจไทยว่าการรับตัวเสี่ยแป้ง กลับมาดำเนินคดีในราชอาณาจักรไทยนั้นค่อนข้าง VVIP มากเกินไป ยืนยันว่าเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย เพราะเสี่ยแป้งมีศักยภาพจึงจำเป็นต้องมีชุดรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา
ทั้งนี้ กรณีที่ทางตำรวจประเทศอินโดนีเซียแจ้งว่า อาจขออยู่ในราชอาณาจักรเพิ่มเติม 2-3 วัน เนื่องจากต้องการรวบรวมข้อมูลผู้ต้องหาที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้รับการประสานเข้ามา แต่ยืนยันว่าหลังจากนี้จะช่วยสืบสวนสอบสวนและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมทบทวนมาตรการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต
พล.ต.ท.อาชยน ยังเปิดเผยถึงกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลส่งหนังสือทวงคืนสำนวนคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน กับทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าว และขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และเป็นเรื่องการทำงานภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะพนักงานสอบสวนว่าจะรายงานมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่. -416-สำนักข่าวไทย