ล่ากระบะปริศนาประกบสาดกระสุนใส่กลุ่มวัยรุ่น ตาย 2 เจ็บ 1

นนทบุรี 10 ส.ค. – ตำรวจเร่งติดตามกระบะปริศนา ขับประกบกลุ่มวัยรุ่น ก่อนสาดกระสุนใส่หน้าปากซอยนนทบุรี 6 มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 1 คน


กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.66 เวลา 22.50 น. พบกลุ่มวัยรุ่น 3 คน ยืนอยู่บริเวณปากซอยนนทบุรี 6 โดยมี 1 คน ได้ยืนโบกมือกลุ่มเพื่อนที่ขี่จักรยานยนต์มากว่า 10 คัน จังหวะที่กลุ่มเพื่อนขี่ผ่านไป ได้มีรถกระบะลดกระจกบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า ก่อนยื่นมือที่ถืออาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่กลุ่มวัยรุ่น ทำให้กลุ่มวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บล้มลงในจุดเกิดเหตุ

ตำรวจ สภ.นนทบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยนนทบุรี 6 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นวัยรุ่นชาย 3 คน อายุระหว่าง 15-17 ปี ถูกยิงด้วยปืนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน เพื่อนๆ ช่วยเหลือพาซ้อนท้ายรถ จยย. ไปส่งที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า แต่คนเจ็บทั้ง 2 คน ที่อาการสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถตรวจยึดอาวุธมีดดายหญ้าด้ามยาว 1 เล่ม มีดดาบ 2 เล่ม ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และยังพบหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่อีก 5-6 ปลอก


น.ส.นิสา แม่ของหนึ่งในผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายบอกกับตนว่าจะไปเที่ยวแถวตลาดนกฮูกกับเพื่อน กลับไม่เกิน 22.00 น. และโทรมาขอเลื่อนเป็น 23.00 น. หลังจากนั้นลูกชายตนแบตหมดทำให้ติดต่อไม่ได้ เวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน โรงพยาบาลโทรหาตนให้รีบมาเพราะลูกชายเกิดอุบัติเหตุ ตนจึงรีบมา สักพักเพื่อนของลูกชายโทรมาบอกว่าลูกชายโดนยิงจุดสำคัญเสียชีวิตแล้ว มาถึงโรงพยาบาลหมอบอกว่าลูกชายโดนยิงตรงคอ และหน้าอก เสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล เพื่อนเป็นคนพามาส่ง ตอนแรกยังมีสติ เพื่อนก็เรียกตลอด อยากให้ตำรวจตามจับมาให้ได้

ผู้บาดเจ็บอายุ 17 ปี ให้การในเบื้องต้นว่า ตนกับพวกได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากตลาดนัดนกฮูก โดยใช้เส้นทางถนนรัตนาธิเบศร์ พอมาถึงแยกพระนั่งเกล้า ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด จึงได้ขี่มาทางถนน นนทบุรี 1 เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถกระบะขับมาเทียบข้าง แล้วลดกระจกลง ใช้อาวุธปืน รัวยิงกระสุนออกมาใส่พวกตนหลายนัด ก่อนที่รถกระบะคันก่อเหตุจะขับหลบหนีขึ้นสะพานเจษฎาบดินทร์ไป

ผุ้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ขี่รถจักรยานยนต์มากับกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า หลังจากไปเดินเล่นที่ตลาดนกฮูก ตนได้ไปเจอกับกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วทำความรู้จักกันก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากตลาดตามกันมา ตามถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี เพื่อจะกลับบ้าน ขณะอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ซ้อนกันมา 5 คน ส่วนกลุ่มที่ถูกยิงซ้อนกันมาประมาณ 6-7 คัน ซึ่งพวกตนขี่ตามหลังมาห่างๆ พอมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถกระบะขับตามมาประกบ ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มที่ขี่นำหน้าได้รับบาดเจ็บ 3 คน พวกตนก็เลยจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ เพื่อจะเข้าไปหลบในร้าน แต่ร้านเขาปิดประตูไม่ให้เข้า เลยยืนหลบอยู่ตรงหน้าร้าน แล้วจึงโทรหาตำรวจและกู้ภัย แต่กลุ่มเพื่อนเขาพากันยกคนเจ็บขึ้นรถจักรยานยนต์ ไปส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าเขาเคยมีเรื่องกันมาก่อนหรือไม่


วินจักรยานยนต์รับจ้างที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนมาส่งผู้โดยสารเห็นกลุ่มวัยรุ่นไล่ยิงกันอยู่แถวสี่แยกพระนั่งเกล้า ประมาณ 30-40 คน ตอนนั้นตนเข้าไปช่วยผู้หญิงที่ตกใจกลุ่มวัยรุ่นยิงกันจนรถล้ม ส่วนกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มที่ไล่ยิงกัน เห็นคนเจ็บในที่เกิดเหตุ 2 คน ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุหนีไป กลุ่มวัยรุ่นมีอาวุธทั้งปืนทั้งดาบ

ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ประชุมเร่งรัดคดีเพื่อติดตามความคืบหน้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดพบรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะสีเทาอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิต และกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิต ทราบว่าทั้งสองกลุ่ม ขับขี่รถวนมาเจอกัน ก่อนมีการเปิดศึกยิง ได้มีการปาระเบิดกันก่อนตั้งแต่บริเวณแยกพระนั่งเกล้าจนถึงจุดเกิดเหตุ

แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากอะไร เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย