ล่ากระบะปริศนาประกบสาดกระสุนใส่กลุ่มวัยรุ่น ตาย 2 เจ็บ 1

นนทบุรี 10 ส.ค. – ตำรวจเร่งติดตามกระบะปริศนา ขับประกบกลุ่มวัยรุ่น ก่อนสาดกระสุนใส่หน้าปากซอยนนทบุรี 6 มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 1 คน


กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.66 เวลา 22.50 น. พบกลุ่มวัยรุ่น 3 คน ยืนอยู่บริเวณปากซอยนนทบุรี 6 โดยมี 1 คน ได้ยืนโบกมือกลุ่มเพื่อนที่ขี่จักรยานยนต์มากว่า 10 คัน จังหวะที่กลุ่มเพื่อนขี่ผ่านไป ได้มีรถกระบะลดกระจกบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า ก่อนยื่นมือที่ถืออาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่กลุ่มวัยรุ่น ทำให้กลุ่มวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บล้มลงในจุดเกิดเหตุ

ตำรวจ สภ.นนทบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยนนทบุรี 6 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นวัยรุ่นชาย 3 คน อายุระหว่าง 15-17 ปี ถูกยิงด้วยปืนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน เพื่อนๆ ช่วยเหลือพาซ้อนท้ายรถ จยย. ไปส่งที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า แต่คนเจ็บทั้ง 2 คน ที่อาการสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถตรวจยึดอาวุธมีดดายหญ้าด้ามยาว 1 เล่ม มีดดาบ 2 เล่ม ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และยังพบหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่อีก 5-6 ปลอก


น.ส.นิสา แม่ของหนึ่งในผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายบอกกับตนว่าจะไปเที่ยวแถวตลาดนกฮูกกับเพื่อน กลับไม่เกิน 22.00 น. และโทรมาขอเลื่อนเป็น 23.00 น. หลังจากนั้นลูกชายตนแบตหมดทำให้ติดต่อไม่ได้ เวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน โรงพยาบาลโทรหาตนให้รีบมาเพราะลูกชายเกิดอุบัติเหตุ ตนจึงรีบมา สักพักเพื่อนของลูกชายโทรมาบอกว่าลูกชายโดนยิงจุดสำคัญเสียชีวิตแล้ว มาถึงโรงพยาบาลหมอบอกว่าลูกชายโดนยิงตรงคอ และหน้าอก เสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล เพื่อนเป็นคนพามาส่ง ตอนแรกยังมีสติ เพื่อนก็เรียกตลอด อยากให้ตำรวจตามจับมาให้ได้

ผู้บาดเจ็บอายุ 17 ปี ให้การในเบื้องต้นว่า ตนกับพวกได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากตลาดนัดนกฮูก โดยใช้เส้นทางถนนรัตนาธิเบศร์ พอมาถึงแยกพระนั่งเกล้า ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด จึงได้ขี่มาทางถนน นนทบุรี 1 เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถกระบะขับมาเทียบข้าง แล้วลดกระจกลง ใช้อาวุธปืน รัวยิงกระสุนออกมาใส่พวกตนหลายนัด ก่อนที่รถกระบะคันก่อเหตุจะขับหลบหนีขึ้นสะพานเจษฎาบดินทร์ไป

ผุ้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ขี่รถจักรยานยนต์มากับกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า หลังจากไปเดินเล่นที่ตลาดนกฮูก ตนได้ไปเจอกับกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วทำความรู้จักกันก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากตลาดตามกันมา ตามถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี เพื่อจะกลับบ้าน ขณะอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ซ้อนกันมา 5 คน ส่วนกลุ่มที่ถูกยิงซ้อนกันมาประมาณ 6-7 คัน ซึ่งพวกตนขี่ตามหลังมาห่างๆ พอมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถกระบะขับตามมาประกบ ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มที่ขี่นำหน้าได้รับบาดเจ็บ 3 คน พวกตนก็เลยจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ เพื่อจะเข้าไปหลบในร้าน แต่ร้านเขาปิดประตูไม่ให้เข้า เลยยืนหลบอยู่ตรงหน้าร้าน แล้วจึงโทรหาตำรวจและกู้ภัย แต่กลุ่มเพื่อนเขาพากันยกคนเจ็บขึ้นรถจักรยานยนต์ ไปส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าเขาเคยมีเรื่องกันมาก่อนหรือไม่


วินจักรยานยนต์รับจ้างที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนมาส่งผู้โดยสารเห็นกลุ่มวัยรุ่นไล่ยิงกันอยู่แถวสี่แยกพระนั่งเกล้า ประมาณ 30-40 คน ตอนนั้นตนเข้าไปช่วยผู้หญิงที่ตกใจกลุ่มวัยรุ่นยิงกันจนรถล้ม ส่วนกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มที่ไล่ยิงกัน เห็นคนเจ็บในที่เกิดเหตุ 2 คน ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุหนีไป กลุ่มวัยรุ่นมีอาวุธทั้งปืนทั้งดาบ

ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ประชุมเร่งรัดคดีเพื่อติดตามความคืบหน้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดพบรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะสีเทาอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิต และกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิต ทราบว่าทั้งสองกลุ่ม ขับขี่รถวนมาเจอกัน ก่อนมีการเปิดศึกยิง ได้มีการปาระเบิดกันก่อนตั้งแต่บริเวณแยกพระนั่งเกล้าจนถึงจุดเกิดเหตุ

แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากอะไร เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยภาคเหนือ-ภาคใต้ ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย