“ครูกี้” คนไทยคนแรกว่ายน้ำสู้มะเร็ง ข้ามช่องแคบอังกฤษไปฝรั่งเศส

พระนครศรีอยุธยา 20 มิ.ย. – “ครูกี้” อดีตผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย สร้างประวัติศาสตร์หลังหายป่วย ว่ายน้ำข้ามช่องแคบจากอังกฤษไปฝรั่งเศสได้สำเร็จ เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ไม่ท้อ ลุกขึ้นมาต่อสู้กับโรคร้าย


เมื่อ 08.30 น. วันนี้ (20 มิ.ย.) ครูกี้ หรือ น.ส.วิศรุตา ฟอร์ซอง อายุ 37 ปี เจ้าของวิลล่าเกาะสมุย นักกีฬา และครูสอนว่ายน้ำที่หายป่วยจากมะเร็ง และเคยว่ายน้ำจากหน้าวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปหน้าวัดพุทไธศวรรย์ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 23 กม. โดยไม่หยุดพักใช้เวลา 7 ชั่วโมงเศษ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 65 ได้แจ้งว่า วันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ครูกี้ ไปว่ายน้ำข้ามช่องแคบจากอังกฤษ ไปฝรั่งเศส ท่ามกลางความสนใจของชาวต่างชาติในฐานะเป็นคนไทยที่ว่ายได้สำเร็จ

ครูกี้ เล่าว่า ได้ว่ายพิชิตเส้นทางว่ายน้ำข้ามประเทศที่ช่องแคบอังกฤษ ซึ่งเป็นช่องแคบที่ว่ายน้ำยากที่สุดในโลก 1 ใน 7 Oceans world ที่ Redbull ยกให้เป็นเส้นทางว่ายน้ำเย็นข้ามประเทศที่ยากที่สุดในโลก โดยเป็นการว่ายน้ำแบบทีมในรายการ The English chanel ใช้เวลาว่ายนาน 21.01 ชั่วโมง ระยะทาง 38.68 ไมล์ หรือ 66 กม. ส่วนที่แคบที่สุดระยะทาง 21 ไมล์เท่านั้น แต่ด้วยกระแสน้ำที่แรงมาก ๆ ทำให้ต้องว่ายน้ำเป็นรูปตัวเอส ระยะทางจึงยาวมาก ต้องว่ายตัดร่องน้ำไปจนถึงฝั่ง ซึ่งมีคนว่ายถึงฝั่งจริง ๆ เพียง 30% ของคนว่ายน้ำทั้งหมด ส่วนใหญ่ถอดใจ หยุดว่ายไปก่อน


ครูกี้ ว่ายถึงฝั่งเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 66 เวลา 03.45 น. ซึ่งระหว่างการว่าย ยังเจออุปสรรคฝนตก ฝูงแมงกะพรุน อุณหภูมิ 10 องศาฯ และมีแดดออกเพียง 2 ชั่วโมง ส่วนใหญ่เจอคลื่นลมแรง และฝน ช่วงที่เป็นรอยแบ่งประเทศใช้เวลาว่ายน้ำ 3 ชั่วโมง

ครูกี้ ลงว่ายพร้อมโคชต่างชาติอีก 3 คน แต่ละคนว่ายน้ำเพื่อต่อสู้โรคมะเร็ง ลมบ้าหมู และฮอร์โมนทำร้ายตนเอง ภูมิใจและมีพลังใจ ที่เคยพูดเมื่อ 10 ปีที่แล้วว่าก่อนตายจะว่ายน้ำข้ามประเทศให้ได้ ตอนนี้เป็นคนไทยคนแรกที่มาว่ายน้ำที่ยากและเย็นที่สุดในโลกแล้ว

สำหรับ “ครูกี้” เป็นประธานชมรมว่ายน้ำเพื่อสุขภาพและนักกีฬาว่ายน้ำมาราธอน เคยจัดกิจกรรม One Starts, The Other Follow Project ว่ายน้ำในแม่น้ำโขง ระยะทาง 30 กิโลเมตร โดยไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2565 และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคซึมเศร้า โรคเครียด โรคไบโพลาร์ และโรคอื่น ๆ ลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้ง


ครูกี้ เคยป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายที่แพทย์แจ้งว่าจะอยู่ได้อีกเพียง 8 เดือน แต่ครูกี้ ไม่ท้อ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาว่ายน้ำ ฝึกทำให้ชีพจรเต้นช้าลง ลดความเครียด ปรับจูนคลื่นสมองให้หลั่ง โกรทฮอร์โมนและอะดรีนาลีน บำบัดอารมณ์ ควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงอีกครั้ง และอยู่มาจนเข้าปีนี้เป็นปีที่ 13 แล้ว . -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย