“พิธา” ร่วมวงภาคเอกชน-ประชาสังคมเชียงใหม่ ถกปัญหา pm2.5

เชียงใหม่ 15 มิ.ย.- “พิธา” ร่วมวงภาคเอกชน-ประชาสังคมเชียงใหม่ ถกปัญหา pm2.5-การท่องเที่ยว พร้อมดันเชียงใหม่เป็นที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติการอาเซียนร่วมแก้ปัญหาฝุ่นระดับภาค เปลี่ยนระบบงบเบี้ยหัวแตก-กระจายงบประมาณให้ท้องถิ่น ย้ำฝุ่นแต่ละที่ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาต่างกัน ด้านการท่องเที่ยวพร้อมดัน พ.ร.บ.โฮมเสตย์-แก้ปัญหา ส.ป.ก.กว่าแสนไร่เปิดทางผู้ประกอบการรายเล็กเติบโต


วันนี้ (15 มิ.ย.) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายของพรรคก้าวไกล เดินสายพบปะกลุ่มภาคประชาสังคมและภาคเอกชนหลากหลายกลุ่มใน จ.เชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหา ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะด้านนโยบาย โดยช่วงเช้าเข้าประชุมร่วมกับกลุ่มสภาลมหายใจ หารือเรื่องปัญหาฝุ่นควัน pm2.5 ตามด้วยการประชุมร่วมกันภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวในช่วงบ่าย

ในวงประชุมด้านฝุ่น pm2.5 พิธาได้กล่าวสรุปถึงแนวนโยบายของพรรคก้าวไกล โดยระบุว่าปัญหาฝุ่น pm2.5 ทำให้เรื่องเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเรื่องเดียวกัน มีสามสถาบันวิจัยเป็นอย่างน้อยที่คำนวณมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจากฝุ่น pm2.5 ออกมาแตกต่างกันบ้าง แต่เฉลี่ยคืออยู่ที่หลักหมื่นกว่าล้านบาท แต่ที่ผ่านมางบประมาณการแก้ไขปัญหานี้เป็นเบี้ยหัวแตก หน่วยงานทั้งราชการและท้องถิ่นต่างคนต่างมีงบประมาณก้อนเล็กก้อนน้อย รวมกันมีเพียงแค่ 85 ล้านบาท สำหรับการแก้ปัญหาหลักหมื่นล้านบาท และประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ชี้ให้เราเห็นแล้ว ว่าการจัดสรรงบประมาณแบบเก่าๆ ไปแก้ความท้าทายใหม่ๆ อย่างไรก็แก้ปัญหาไม่ได้ ส่วนกฎหมายที่มีอยู่ก็ติดขัดเรื่องโครงสร้างอำนาจ เช่น การที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษไม่มีอำนาจในการสั่งการให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยุติหรือชะลอกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น ได้เพียงขอความร่วมมือเท่านั้น


ดังนั้น นโยบายของรัฐบาลก้าวไกลต่อปัญหาฝุ่น pm2.5 จะแบ่งเป็นสามระดับ คือระดับนานาชาติ ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น อันดับแรกระดับนานาชาติ อาเซียนเคยออกข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับอากาศไว้แล้วตั้งแต่ปี 2004 แต่ไม่เคยมีการใช้จริง และขณะนี้ก็มีความพยายามจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ASEAN Haze Pollution Center ขึ้นมาแต่ยังหาที่ตั้งไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลก้าวไกลจะเสนอให้นำศูนย์ปฏิบัติการนี้มาไว้ที่เชียงใหม่ เพื่อใช้กลไกอาเซียนพร้อมกับการพูดคุยร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ไปผลักดันการแก้ปัญหาร่วมกันในระดับภูมิภาคต่อไป

ส่วนในระดับประเทศ ฝุ่น pm2.5 ในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันอยู่มาก เข่น ที่สระบุรี มาจากการทำเหมือง ที่สมุทรปราการ มาจากโรงงาน ที่เชียงใหม่ มาจากการเกษตรทั้งในประเทศและข้ามแดน ที่กรุงเทพ มาจากคมนาคมและการก่อสร้าง บทเรียนคือเราจะตัดเสื้อโหลตัวเดียวใช้ทั้งประเทศไม่ได้ การออกแบบนโยบายแก้ปัญหาแต่ละพื้นที่จะต้องสอดรับกับบริบทที่แตกต่างกันไปตรงนี้ด้วย

ส่วนในระดับท้องถิ่น จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมางบประมาณท้องถิ่นในการแก้ปัญหานี้น้อยมาก ท้องถิ่นเองไม่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ในการแก้ปัญหา คนที่มีเครื่องมือในการแก้ปัญหาก็กลับไม่ได้เป็นคนแก้ การกระจายงบประมาณลงมาให้กับกลไกท้องถิ่น จะทำให้คนที่อยู่ใกล้ชิดกับปัญหาที่สุดได้มีเครื่องมือในการแก้ปัญหานี้ได้


“ปัญหาฝุ่น pm2.5 เศรษฐกิจ และสาธารณสุข เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออก ผมเชื่อว่าถ้าเราเรียงลำดับความสำคัญ ให้ความใส่ใจ ให้ทรัพยากรที่เหมาะสมกับพื้นที่ ให้คนแก้ปัญหามีของ ภายในสี่ปีสถานการณ์น่าจะดีขึ้นได้” พิธากล่าว

ส่วนในวงประชุมร่วมกับภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว พิธาระบุว่าโจทย์สำคัญเฉพาะหน้าวันนี้คือจะทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นก่อนโควิดได้ เพราะจากตัวเลขวันนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวยังหายไปครึ่งหนึ่งจากเดิม และยังมีโจทย์ใหม่ที่ต้องพิจารณา คือจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวอยู่นานกว่าเดิมและจ่ายเยอะกว่าเดิม ทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวกระจายตัวมากกว่ากระจุกตัวอยู่ 5 จังหวัดหลัก ซึ่งเชียงใหม่เป็นหนึ่งในนั้น และแม้แต่ในตัวเชียงใหม่ก็ยังกระจุกตัวอยู่มาก

นอกจากนี้ รัฐบาลก้าวไกลยังจะต้องทำให้เชียงใหม่เป็นเมืองสุราก้าวหน้า และเป็นเมืองแห่งโฮมสเตย์ นั่นหมายความว่าจะต้องมีการผลักดัน พ.ร.บ.โฮมสเตย์ ให้ผู้ประกอบการโฮมสเตย์สามารถทำได้สะดวกขึ้น ไม่ติดข้อกฎหมายหรือระเบียบที่เป็นอุปสรรคหลายประการที่ไม่สมเหตุสมผล รวมทั้งการแก้ปัญหาที่ดิน เช่น ส.ป.ก. ที่เชียงใหม่มีอยู่กว่า 1 แสนไร่ ที่สร้างข้อจำกัดให้ประชาชนไม่สามารถนำที่ดินของตัวเองไปต่อยอดได้

“ประเด็นการท่องเที่ยวไม่สามารถแยกออกได้จากประเด็นเรื่องเศรษฐกิจ สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม นี่คือความท้าทายใหม่ๆ ที่การท่องเที่ยวของเรากำลังเผชิญอยู่ เราได้พบปะพูดคุยกับหอการค้า YEC และภาคธุรกิจ มาหลายจังหวัด พบว่าทุกคนวันนี้กำลัเผชิญความท้าทายและปัญหาที่มีรูปแบบคล้ายกันอยู่ แต่ในแง่หนึ่ง นั่นแปลว่าการแก้ปัญหาของเราสามารถขับเคลื่อนไปด้วยกันได้” พิธากล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]