นนทบุรี 11 เม.ย. – แม่ร้องทนายรณณรงค์ ลูกวัย 2 ขวบ เป็นไข้ ไอ หมอรับไว้ดูอาการบอกไม่เป็นอะไรมาก แต่สุดท้ายเลือดออกภายใน โรงพยาบาลบอกอุปกรณ์ไม่พร้อม ขอส่งต่อไปรักษาที่อื่น สุดท้ายน้องเสียชีวิต
แม่น้องโอโซน วัย 2 ขวบ 7 เดือน เข้าขอความช่วยเหลือจากทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังลูกชายป่วยเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการไอ และมีไข้ ก่อนจะเกิดอาการอาเจียน หมดสติ และเสียชีวิต ซึ่งแม่ยอมรับว่าติดใจมาก
คุณแม่เล่าทั้งน้ำตา ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจากวันที่ 16 มีนาคม ลูกมีอาการตัวรุมๆ ตอนนั้นแม่ไม่ได้พาไปหาหมอ กระทั่งเช้า ลูกมีอาการไอ และมีไข้ แม่จึงตัดสินใจพาน้องไปโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ตอนนั้น หมอบอกว่า น้องหลอดลมอักเสบ จะอยู่ดูอาการที่โรงพยาบาล หรือกลับบ้านก็ได้ แต่หากกลับบ้าน ต้องเอายาไปฉีดพ่นเอง แม่เองเห็นว่า ได้ทำประกันสุขภาพเด็กชั้น 1 ให้กับลูกไว้แล้ว เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ จึงให้ลูกแอดมิด
วันรุ่งขึ้น (18 มี.ค.) ลูกยังร่าเริง หมอพาลูกไปเอกซเรย์ปอด พร้อมเจาะเลือด โดยหมอบอกว่า ลูกปอดปกติ แต่ติดเชื้อไวรัส Rhinovirus ซึ่งเป็นไวรัสที่พบได้ในเด็กทั่วไป ไม่รุนแรง ไม่ร้ายแรง หมอแนะนำให้นอนต่อที่โรงพยาบาล เพื่อฉีดยารักษาผ่านทางสายน้ำเกลือ ตอนนั้น ลูกชายก็ยังปกติ แม่จึงอัดคลิปถ่ายเก็บไว้ จากนั้นน้องร้องขอกินนม แม่ก็เอาให้ แต่พอพยาบาลมาฉีดยาให้น้อง สักพัก น้องเริ่มอาเจียน หายใจหอบเหนื่อย และอ่อนเพลีย จึงเรียกพยาบาลให้เข้ามาดู พยาบาลก็นำออกซิเจนมาใส่ให้น้อง แต่อาการไม่ดีขึ้น ค่าออกซิเจนในเลือดลดต่ำลงมาก ถึงขั้นต้องให้ออกซิเจนทางจมูกแทน แล้วพาเข้าห้องฉุกเฉินเด็ก
ผ่านไป 2 ชั่วโมง หมอที่รักษาน้องถึงจะเดินทางมาดูอาการ แต่น้องอาการไม่ดีขึ้น แม่นั่งรอติดตามอาการอยู่นาน กระทั่งเห็นพยาบาลอุ้มน้องออกมาจากห้อง และตะโกนเรียกชื่อน้องตลอด ตอนนั้นแม่เห็นน้องเริ่มแน่นิ่งแล้ว กระทั่ง 23.00 น. หมอได้ใส่ท่อช่วยหายใจให้น้อง เพื่อเป็นการยื้อชีวิต ก่อนจะออกมาบอกกับแม่ว่า อาการน้องตอนนี้มีเลือดออกภายในจำนวนมาก ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด เพราะโรงพยาบาลนี้อุปกรณ์ช่วยชีวิตไม่พร้อม ยังซ่อมแซมอยู่
ตอนนั้นแม่ใจไม่ดีแล้ว และเห็นโรงพยาบาลเตรียมรถฉุกเฉิน ส่งตัวน้องไปรักษา แล้วตอนอุ้มน้องออกจากห้องไปขึ้นรถ น้องแน่นิ่งไปแล้ว พอแม่ขึ้นรถไปกับน้อง ก็เห็นค่าออกซิเจนในเลือดของน้องลดเหลือแค่ 38 และลดลงเรื่อย กระทั่งไปถึงโรงพยาบาลร้อยเอ็ด หมอได้รีบพาเข้าห้องฉุกเฉิน แต่กลับออกมาบอกว่า น้องหยุดหายใจแล้ว เชื่อว่าน้องน่าจะเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล เพราะมีเลือดออกจากภายในเป็นจำนวนมาก และสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากปอดติดเชื้อ
แม่ยังบอกด้วยว่า หลังจากน้องเสียชีวิตในวันที่ 19 มี.ค. เวลา 02.20 น. แม่ได้รับศพลูกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน แล้ววันที่ 20 มี.ค. ตัวแทนของโรงพยาบาลเอกชนได้เดินทางมาแสดงความเสียใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ 20,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาอีก ซึ่งส่วนตัวแม่มองว่า เงินที่โรงพยาบาล นำมามอบให้ไม่คุ้มกับชีวิตของน้องโอโซน ที่สำคัญอยากรู้สาเหตุที่แท้จริงที่ลูกเสียชีวิต เพราะหลังเสร็จงานศพ แม่ไปสอบถามโรงพยาบาล ก็ได้คำตอบว่า จะเอาเข้าที่ประชุม แต่สุดท้ายโทรกลับมาแจ้งว่า หมอที่รับรักษา บอกเพียงว่า ประเมินอาการของน้องแล้ว คิดว่ารักษาได้ จึงได้รับเคสไว้ เมื่อแม่ถามกลับว่า หากรักษาได้ทำไมลูกแม่เสียชีวิต กลับได้คำตอบมาเพียงว่า ขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆ เพราะคิดว่าจะรักษาน้องได้แต่ไม่คิดว่าอาการจะรุนแรง
เคสนี้ ทนายรณณรงค์ ให้ข้อมูลเพิ่มว่า จะพาแม่ไปยื่นร้องเรียนที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธรณสุข ให้ตรวจสอบกับโรงพยาบาลเอกชนถึงสาเหตุที่น้องเสียชีวิต หากตรวจสอบแล้วพบว่าโรงพยาบาลประมาทเลินเล่อ แม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย เพราะนอกจากแม่จะติดใจเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต อีกเรื่องหนึ่งที่แม่ติดใจมากคือในเมื่อรู้ว่าอุปกรณ์ในการรักษาไม่พร้อม ทำไมไม่แจ้งตั้งแต่แรก และกว่าจะพาน้องไปส่งต่อที่โรงพยาบาลอื่น ก็ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย