พบเบาะแสผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ “ร.ต.อ.” ดับ

นราธิวาส 23 พ.ย. – เหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ จ.นราธิวาส พบเบาะแสชายต้องสงสัย แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ขับรถกระบะเข้ามาจอดก่อนเกิดเหตุ ด้านนักวิชาการมองสถานการณ์ชายแดนใต้มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น


เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) เวลาประมาณ 12.45 น. คนร้าย 1 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ นำรถกระบะประกอบระเบิด (คาร์บอมบ์) มาจอดไว้ภายในบริเวณแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ถ.สุริยะประดิษฐ์ เทศบาลเมืองนราธิวาส โดยหลังนำรถมาจอดเพียงไม่นานได้เกิดระเบิด เกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะบ้านพักอาคาร 2 ชั้น รวมทั้งแฟลตข้าราชการตำรวจอาคาร 4 ชั้น ที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามเสียหายนับสิบห้อง รวมถึงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บ้านเรือนใกล้เคียง และโรงเรียนอนุบาลนราธิวาส และโรงเรียนนราสิขาลัย โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาประจำจังหวัด ได้รับผลกระทบจากแรงอัดระเบิด ทำให้เด็กนักเรียน และครู หวาดกลัวและต้องหลบอยู่ภายในโรงเรียนเพื่อความปลอดภัย

หลังเกิดเหตุ ตำรวจ ทำทหาร และปกครอง ต้องสนธิกำลังปิดกั้นพื้นที่ระยะรัศมีกว่า 300 เมตร ระดมรถดับเพลิงเข้ามาดับไฟระงับเหตุใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงควบคุมสถานการณ์ได้ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ รองสารวัตรจราจร สภ. เมืองนราธิวาส เสียชีวิตใกล้รถยนต์คนร้าย ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์ครั้งนี้มีจำนวนมาก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล


หลังเกิดเหตุไม่นาน พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เดินทางลงพื้นที่หลังได้รับการสั่งการจาก นายกรัฐมนตรี พร้อมเปิดเผยว่าผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดจะได้รับการเยียวยาอย่างเร็วที่สุด อยากสื่อสารให้ประชาชน เชื่อมั่นว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย กำลังใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการทำงานแก้ปัญหา เร่งติดตามผู้ก่อเหตุได้ในเร็ววันนี้

ต่อมา พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุที่เสียหายหนัก ก่อนพบกับซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุ้งต้มหนัก 50 ก.ก. จุดชนวนตั้งเวลาจาก วงจรไอ.ซี.ไทม์เมอร์ เศษชิ้นส่วนของเหล็กเส้นตัดสั้น จากการลงพื้นที่พบว่าเกิดความเสียหายค่อนข้างรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 43 ราย ส่วนทางคดีจากการประชุมติดตามเร่งรัด ผบช.ภ.9 รายงานให้ทราบว่า คืบหน้ามากพอสมควร ทั้งพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ กล้องวงจรปิด

เบื้องต้น ได้รับรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงแกะรอยผู้ต้องสงสัย กล้องวงจรปิดพบภาพชายต้องสงสัย สวมใส่เสื้อโปโลสีเทา กางเกงแบบยุทธวิธีสีกรมเลียนแบบเจ้าหน้าที่ สวมหน้ากากอนามัย ปิดบังใบหน้า พร้อมสวมถุงมือสีดำป้องกันการแกะรอยลายมือที่จะเป็นหลักฐาน ได้ขับรถกระบะสีดำมาจอดภายในแฟลตตำรวจ ช่วงเวลาประมาณ 12.39 น. ก่อนเดินออกไปแบบใจเย็น จากนั้นเกิดระเบิดอย่างสนั่น โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ให้ผู้เชี่ยวชาญทำภาพให้คมชัดนำภาพเปรียบเทียบกับบุคคลในแฟ้มคดีความมั่นคงหรือคล้ายกับผู้ใดในแฟ้มประวัติ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นเบาะแสบุคคลลักษณะดังภาพ แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือ โทรสายด่วน 1341 หรือ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง


ส่วนการช่วยเหลือเยียวยา ผบ.ตร. สั่งการให้ ภ.9 และ ภ.จว.นราธิวาส เร่งแก้ปัญหาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เดือดร้อน และจัดหาที่อยู่ให้ชั่วคราว และเร่งซ่อมแซมแฟลตที่เสียหายรวมทั้งวางมาตรการความปลอดภัยให้เข้มข้นไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ส่วนกรณีของ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ ผู้เสียชีวิต ผบ.ตร.สั่งการให้เสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 7 ขั้น, ขอพระราชทานยศเป็น พล.ต.อ. และเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงขึ้นไม่เกิน 2 ชั้นตรา รวมทั้งให้การช่วยเหลือดูแลในส่วนของสิทธิประโยชน์อื่นเป็นกรณีพิเศษ โดยในส่วนของเงินช่วยเหลือต่างๆ รวมเบื้องต้นแล้วกว่า 3 ล้านบาท หลังประชุมเสร็จ ผบ.ตร.เดินทางไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจแก่ตำรวจ รวมถึงประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ มอบกระเช้าของขวัญและเงินจำนวนหนึ่ง ขณะที่โรงเรียนนราสิกขาลัย ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุประกาศหยุดการเรียนการสอน 2 วัน จะเปิดเรียนในวันที่ 25 พฤศจิกายน 65

ด้าน ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ และอาจารย์นักวิจัยสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความรุนแรงในปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยปี 2564 มีเหตุการณ์เกิดขึ้นทั้งปี ราว 400 เหตุการณ์ แต่ในปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม มีเหตุการณ์เกิดขึ้นใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยยังไม่รวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกยน และธันวาคม

จากข้อมูลของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ พบว่า นับตั้งแต่เริ่มการเจรจาพูดคุยสันติสุขในปี 2554 สถานการณ์ความรุนแรง และเหตุการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปีละไม่น้อยกว่า 1,000 เหตุการณ์ ลดลงเหลือ 800 และ 500 ตามลำดับ และในปี 2564 เป็นต้นมาคณะพูดคุยสันติสุขทั้ง 2 ฝ่าย มีความพยายามในการพูดคุยสันติสุขระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีผลเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการลดความรุนแรง ทั้งการแสวงหาทางออกร่วมกัน การแสวงหาทางออกทางการเมือง และการพูดคุยกับภาคประชาชน ประกอบกับยังมีการบังคับใช้กฎหมาย มีการปิดล้อม วิสามัญคนร้ายอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกครั้ง รัฐควรสร้างบรรยากาศของการเจรจาพูดคุยสร้างความไว้วางใจ โดยเริ่มจากรัฐ ให้มีกลไกลเป็นกลางในการลดความรุนแรงของทั้งสองผ่าย เพื่อเดินหน้าเจรจาพูดคุยสันติสุข และหาข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งจะเป็นทางออกที่สำคัญของการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย