สีสันฮาโลวีนไทย เด็กๆ แต่งผี รณรงค์ขอรับบริจาคโลหิต

ภูมิภาค, กทม. 31 ต.ค.- สีสันฮาโลวีนไทย เด็กๆ ร่วมกันแต่งกายเป็นผี รณรงค์ขอรับบริจาคโลหิต หลังสถานการณ์เลือดสำรองยังไม่พอความต้องการ ขณะที่หลายโรงเรียน ครูใช้เทศกาลฮาโลวีนเสริมการเรียนภาษาอังกฤษ


เหล่าผีเด็กน้อยมารวมกันที่ห้องรับบริจาคโลหิต ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 นครราชสีมา ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 นครราชสีมา สร้างสีสันวันฮาโลวีน 31 ต.ค.65 ขอรับบริจาคเลือดจากประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ช่วยกันแต่งหน้า แต่งตัวให้เด็กๆ มีทั้งผีไทยอุ้มลูก ผีฝรั่ง ผีดิบ ผีเด็ก และผีผู้ใหญ่ สร้างกระแสเชิญชวนคนมาบริจาคโลหิต

นางสาวศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 นครราชสีมา สภากาชาดไทย กล่าวว่า กิจกรรมนี้ใช้ชื่อ “ฮาโลวีนหนีผีมาให้เลือด” ชวนประชาชนร่วมใจมาให้เลือด เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาโลหิตขาดแคลน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาหลายระลอก ขณะนี้สามารถจ่ายโลหิตให้โรงพยาบาลต่างๆ ได้เพียงประมาณ 50% เท่านั้น สวนทางกับความต้องการของโรงพยาบาลที่ต้องใช้โลหิตในการรักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยกิจกรรมฮาโลวีนหนีผีมาให้เลือดครั้งนี้ เปิดรับบริจาคโลหิตได้มากกว่า 300 ยูนิต


ส่วนบรรยากาศในการบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เนื่องในเทศกาลวันฮาโลวีน 31 ตุลาคม 2565 สนุกสนานไปด้วยธีมผีหลอกทั้งเจ้าหน้าที่ให้บริการแต่งกายด้วยชุดผีแม่นาค และแดรกคิวล่า เดินมาแวะเวียนทักทายผู้มาบริจาคโลหิต หรือแม้แต่พยาบาลก็คาดผม สวมหมวก สัญลักษณ์เทศกาลวันฮาโลวีน เพื่อให้เข้ากับโครงการ “ฮาโลวีน หนีผีมาให้เลือด” สร้างสีสัน และเพิ่มยอดการบริจาคโลหิต ซึ่งผู้บริจาคโลหิตในวันนี้ (31 ต.ค.) จะได้รับชุดขนมโดนัทรูปผีแฟนซีกลับไปรับประทานด้วย นอกจากสุขภาพดีจากการบริจาคเลือดและยังอิ่มใจจากการทำบุญด้วยการบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

ทั้งนี้ โลหิตที่ได้รับบริจาคนี้จะนำมาไปกระจายช่วยเหลือผู้ป่วยในสถานพยาบาลต่างๆ โดยแต่ละวันทางศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ต้องการโลหิต 2,200 ยูนิต แต่มีผู้บริจาคเฉลี่ยวันละ 500-600 ยูนิต ซึ่งจากการสอบถามผู้บริจาคโลหิต ระบุว่าการเดินทางมาบริจาคในช่วงเทศกาลฮาโลวีนนี้ตรงกับรอบของการรับบริจาคที่ห่างกัน 3 เดือน การแต่งกายด้วยชุดผีให้บริการรับบริจาคโลหิตก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สร้างสีสันกระตุ้นการบริจาคได้ดีส่วนตัวเห็นว่าการมาบริจาคเลือดดีกว่าการเที่ยวกลางคืนในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีน หรือบางคนก็มาบริจาคเนื่องในวันเกิด

ส่วนที่ จ.น่าน ครู และนักเรียนตั้งแต่อนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนราชานุบาล ร่วมแต่งกายแต่งหน้าเป็นผี ประชันความหลอน มีทั้งผีเจ้าสาว ผีแม่ชี และแม่มดสาว บางส่วนแต่งแนวแฟนตาซี เป็นผีสาวสดใส สร้างสีสันวันฮาโลวีน โดยโรงเรียนจัดกิจกรรมวันฮาโลวีนให้นักเรียนมีส่วนร่วม มีจินตนาการ กล้าแสดงออก และได้พัฒนาเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรมนี้ สร้างความสนุกสนานครื้นเครงในความน่ารักของเด็กๆ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก