สมุทรปราการ 22 ก.ย.- เจ้าหนี้โหดรุมทำร้ายลูกหนี้หน้าที่ทำการไปรษณีย์ย่านพระสมุทรเจดีย์ ทั้งจิกหัว ตบ ตีเข่า กระทืบ ถลกเสื้อ นานกว่า 20 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่และประชาชนจะช่วยกันห้าม และคุยเคลียร์กันได้ แยกย้ายกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังเกิดเหตุเรื่องมีคนนำภาพคลิปการทำร้ายดังกล่าว ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กรายหนึ่ง เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงกลางวันแสกๆ หน้าที่ทำการไปรษณีย์ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในคลิปจะเห็นว่ามีหญิงผมสั้น สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้น ที่เป็นลูกหนี้ ถูกกระชากศีรษะออกมาหน้าที่ทำการไปรษณีย์ จากนั้นก็ถูกทำร้าย ทั้งตบ ตี จากคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ 2 คน พอเพื่อนที่มาด้วยห้าม ก็บอกว่าอย่ายุ่ง เพราะต้องการเคลียร์ปัญหากัน การพูดคุยจับใจความได้ว่า หญิงที่ถูกรุมทำร้ายกู้ยืมเงินจากอีกฝ่ายจำนวนหลายแสนบาท แล้วไม่ยอมใช้หนี้ หรือติดต่อกลับ หลบหน้าหลบตา ไม่ยอมจ่ายเงินคืน เมื่อเจ้าหนี้ทราบว่าหญิงคนดังกล่าวมาทำธุระที่ทำการไปรษณีย์ จึงนำพวกมาดักรอ และเข้าไปทำร้ายตามภาพ
หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังสำนักงานไปรษณีย์สาขาพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้สามแยกพระสมุทรเจดีย์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง นายสุวรรณ วรกุลไพศาล ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานไปรษณีย์สาขาพระสมุทรเจดีย์ รักษาการหัวหน้าไปรษณีย์ เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 ก.ย.65 โดยได้รับรายงานจากพนักงานในที่ทำการฯ ว่ามีกลุ่มหญิงเข้ามาทำร้ายร่างกายกัน บริเวณด้านหน้าสำนักงาน ก่อนที่จะลากออกไปตบตีกันบริเวณทางลงบันไดนานกว่า 20 นาที ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่และประชาชนช่วยกันเข้าห้ามปราม หลังจากนั้นเดินไปเคลียร์กันต่อบริเวณประตูทางเข้าที่ทำการไปรษณีย์และแยกย้ายกันไป ซึ่งเป็นไปตามที่เห็นในคลิป ในส่วนเรื่องที่เข้ามาทำร้ายกันนั้นไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร
ด้านตำรวจ พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจไปตรวจสอบพบกลุ่มคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ยืนคุยกันบริเวณทางเท้าด้านหน้าที่ทำการไปรษณีย์ และสอบถามถึงเหตุการณ์ แต่ได้รับคำตอบว่าได้เคลียร์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปรับทำความเข้าใจกัน เบื้องต้นตำรวจไม่ทราบว่าทั้ง 2 ฝ่ายทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร แต่ได้ยินพูดกันว่าได้กู้ยืมเงินกัน จึงแนะนำให้ไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ เพื่อไกล่เกลี่ย แต่ทั้ง 2 ฝ่ายบอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องการจะแจ้งความอะไร ซึ่งฝ่ายที่ก่อเหตุขับรถออกไป ส่วนฝ่ายผู้เสียหายเข้าไปติดต่อไปรษณีย์เหมือนเดิมคล้ายไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น และตอนนี้ยังไม่ใครมาแจ้งความ แต่แน่นอนตำรวจก็จะเชิญตัวมาสอบสวน.-สำนักข่าวไทย