นนทบุรี 7 ก.ย. – “ทนายรณณรงค์” และย่าน้องพีพี เข้ารับเวชระเบียนการรักษา “น้องพีพี” ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายเสีนชีวิต เพื่อเตรียมยื่นเรื่องต่อกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ขณะที่อาการของ “น้องเจ้าขา” เริ่มขยับตัวได้มากขึ้น
วันนี้ นางอนันต์ อายุ 64 ปี ย่าของน้องเจ้าขาและน้องพีพี พร้อมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาที่โรงพยาบาลบางบัวทอง เพื่อติดตามและขอรับเวชระเบียนการรักษาของน้องพีพี ที่โรงพยาบาลบางบัวทอง เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา และน้องพีพีเสียชีวิตในวันดังกล่าว โดยทางครอบครัวต้องการทราบรายละเอียดและประวัติการรักษาของน้องพีพีตั้งแต่เริ่มเข้ามารักษาก่อนเสียชีวิต ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษาสงสัยว่าน้องพีพีถูกทำร้ายจนทำให้ต้องแจ้งตำรวจบางบัวทองมาดูที่เกิดเหตุ ซึ่งนางอนันต์ ผู้เป็นย่า ได้นำหนังสือมอบอำนาจของพ่อน้องพีพีตามกฎหมาย มามอบให้กับผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางบัวทอง เพื่อรับเวชระเบียนตามขั้นตอน
นางอนันต์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณทนายรณณรงค์ ที่มาช่วยตามคดีน้องพีพีและน้องเจ้าขา ไม่อย่างนั้นคุณย่าจะไม่รู้เรื่องเลยว่าน้องโดนอะไรบ้าง จิตใจเขาทำด้วยอะไร น้องไม่ได้ดื้อ ไม่ได้ซน เลี้ยงง่าย เป็นคนร่าเริง ถ้าทำคดีตั้งแต่น้องพีพีเสียชีวิต ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ย่าคงไม่อยู่สภาพแบบนี้ ย่ามีหลาน 2 คน อีกคนหนึ่งตาย อีกคนหนึ่งมีโอกาสป่วยติดเตียงตลอดชีวิต
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า น้องพีพี น้องชายน้องเจ้าขา เด็กที่เสียชีวิตรายแรก ตนได้มาถามที่โรงพยาบาลพบว่าเด็กมีแผลทั้งตัว จนแพทย์ต้องให้เอาเด็กไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ตนแปลกใจว่าแผลทั้งตัวทำไมไม่เอาเรื่อง เราจะไปนยื่นเรื่องต่อกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อให้ช่วยส่งชุดสืบสวนมาตรวจสอบเพิ่ม เพราะแบบนี้เข้าข่ายคดีฆาตกรรมอำพราง
ด้านผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางบัวทอง เล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา พ่อเลี้ยงอุ้มเด็กมาห้องฉุกเฉินกับแม่เด็ก บอกว่าเด็กไม่รู้สึกตัวก่อนมาโรงพยาบาล 2 ชม. หมอเวรตรวจทันทีแล้วพบว่าไม่มีสัญญาณชีพ ไม่รู้สึกตัว ตามตัวมีรอยฟกช้ำ ท้องป่องตึงมากผิดปกติ แพทย์ทำการช่วยฟื้นคืนชีพประมาณครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีการตอบสนอง เลยแจ้งกับแม่เด็กว่าเสียชีวิตก่อนมาโรงพยาบาล ตรวจม่านตาขยายใหญ่และไม่ตอบสนองต่อแสง ทางการแพทย์คือให้อนุมานว่าสมองขาดเลือดและออกซิเจนมานานจนสมองตายไปแล้ว หมอเวรแจ้งว่าเด็กมีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ทั้งท้ายทอย บริเวณหลัง เราไม่รู้ว่าเด็กฟกช้ำมาจากสาเหตุอะไร เมื่อช่วยเด็กแล้วไม่ตอบสนองก็แจ้งกับแม่และ สภ.บางบัวทอง เพื่อนำศพไปผ่าพิสูจน์ต่อไป ทางคุณย่ากับพ่อของเด็กมาพร้อมกับทนายรณณรงค์ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาแล้ว มาขอประวัติเด็กที่มารักษาและเข้ามารับวันนี้ ฝากพี่น้องประชาชนว่าทางเราก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการทำร้ายเด็ก อยากให้เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ไม่ปกติ มีพฤติกรรมทารุณกรรมเด็ก อยากให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้ช่วยกัน ไม่ทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น
ส่วนอาการของน้องเจ้าขา พี่สาวของน้องพีพี ที่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายอาการสาหัส ต้องผ่าตัดสมอง เสี่ยงพิการตลอดชีวิตนั้น ตอนนี้แพทย์ยังให้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเด็ก และยังต้องดูอาการวันต่อวัน แต่เบื้องต้นวันนี้อาการดีขึ้น และสามารถตอบสนอง รวมถึงเบิกตาได้กว้างขึ้นแล้ว.-สำนักข่าวไทย