คุมทำแผนฯ หนุ่มโหดชกเมียดับ-ทิ้งศพลงแม่น้ำตรัง

ตรัง 2 ก.ย.- หลังจากเมื่อเย็นวานนี้ มีคนหาปลาพบศพหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี ในแม่น้ำตรัง ต่อมาญาติผู้เสียชีวิตมายืนยันศพ และเชื่อว่าคนร้ายที่ฆ่าหญิงสาวคนนี้ คือ “เจ” แฟนใหม่ เมื่อคืนตำรวจไปตามจับกุมตัวมาได้ และรับสารภาพก่อเหตุจริง จากนั้นคุมตัวไปทำแผนฯ


เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 ก.ย.) เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบศพหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี ถูกคนร้ายฆ่าแล้วนำศพไปโยนทิ้งในคลองประดู่ แม่น้ำตรัง อ.ห้วยอด จ.ตรัง โดยมีคนหาปลาไปพบศพในสภาพนอนคว่ำ ติดโขดหินบริเวณโค้งน้ำ ที่ตัวมีรอยสัก และมีบาดแผลทั่วร่าง ทั้งที่บริเวณ คิ้วขวา เบ้าตา หน้าแข้งซ้าย น่องซ้าย มีรอยฟกช้ำทั่วตัว คาดเสียชีวิตไม่ต่ำ 12 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำศพส่ง รพ.ห้วยยอด เพื่อชันสูตรพลิกศพ และเจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมทั้งแคมป์คนงานและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสคนร้าย

ต่อมาช่วงค่ำ ญาติเห็นข่าวทางเฟซบุ๊กก็รีบเดินทางเข้าติดต่อตำรวจ สภ.ห้วยยอด เพื่อขอตรวจสอบศพ และได้ยืนยันว่าเป็นศพของนางพรทิพย์ อายุ 29 ปี และเชื่อว่าเป็นฝีมือของนายวิษณุ หรือนายเจ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นแฟนใหม่ เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามตัว จนกระทั่งจับกุมได้ทันควันที่บ้านพักในพื้นที่ อ.รัษฎา พร้อมรถยนต์กระบะของนายเจ


นายเจ รับสารภาพเป็นคนลงมือฆ่านางพรทิพย์ เทพธานี ภรรยา หลังขับรถออกจากงานศพคืนวันที่ 31 ก.ย. แต่เกิดทะเลาะวิวาทกันรุนแรงภายในรถ จนมีการลงมือทำร้ายร่างกายกัน และชกหน้าเมียจนสลบ จากนั้นจึงเลี้ยวรถนำไปจอดบนสะพานคลองประดู่ แม่น้ำตรัง ในเวลาประมาณ 02.00 น. คืนวันที่ 1 ก.ย แล้วลากศพเมียลงจากรถและนำโยนทิ้งแม่น้ำตรัง ก่อนขับรถยนต์กลับบ้านพัก

จากนั้นตำรวจคุมตัวนายเจ ไปตรวจค้นบ้านพักเพื่อหาหลักฐานต่างๆ โดยพบแหวนวงที่สวมใส่ ซึ่งนายเจระบุว่า แหวนหัวแหลมทำให้ร่างกายเมียเกิดแผล และตรวจค้นภายในรถคันเกิดเหตุ เพื่อหาร่องรอยพยานหลักฐาน และคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณกลางสะพานคลองประดู่ แม่น้ำตรัง

นายเจ บอกว่า ตนเองขับรถมาจอดบนสะพาน ก็ลงจากรถและถอดเสื้อภรรยาออก รวมทั้งเสื้อชั้นใน เพื่อต้องการจะปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ไม่ฟื้น โดยไม่กล้านำไปส่งโรงพยาบาล เพราะกลัวความผิด จากนั้นจึงเอาเสื้อกล้ามของตัวเองสวมใส่ให้ภรรยา แล้วลากศพทิ้งน้ำ โยนเสื้อและเสื้อชั้นในของภรรยาทิ้งน้ำตามลงไปด้วย ส่วนกางเกงใน นายเจ อ้างว่าภรรยาไม่ได้สวมใส่มาตั้งแต่ต้น


หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ตำรวจคุมตัวกลับไปที่ สภ.ห้วยยอด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป เพราะยังมีหลายประเด็นสงสัยในคำให้การ เบื้องต้นตำรวจยังไม่ตั้งข้อกล่าวหา เพราะยังไม่มีการสอบสวนอย่างละเอียด รวมทั้งสอบพยานฝ่ายผู้ตายและผู้ต้องหา

ด้าน พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.ห้วยยอด ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายเจ เพราะขัดกับหลักฐานบนร่างกายของผู้ตาย ส่วนศพของนางพรทิพย์ ทางตำรวจจะส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.)หาดใหญ่ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด เพราะต้องทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตก่อนที่จะถูกผลักร่างทิ้งแม่น้ำ หรือว่าสิ้นใจหลังจากนั้น หรือจากการจมน้ำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย