นายกฯ ห่วงใช้เด็กเป็นกันชน

ทำเนียบฯ 19 ส.ค. – นายกฯ ยันรับฟังข้อเรียกร้องของนักเรียน นักศึกษา แต่หลายข้อเป็นไปไม่ได้ จะทำลายสถาบันครอบครัวและการศึกษา ระบุให้ความสำคัญกับการชุมนุม ห่วงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก หากมีความพยายามให้เกิดความรุนแรง และใช้เด็กเป็นกันชน ย้ำไม่มีนโนบายใช้ความรุนแรงกับเด็ก เตือนการชุมนุมต้องเป็นไปอย่างสันติ ไม่แตะต้องสถาบัน ตอกสื่อต่างชาติไม่เคยสนับสนุนการเมืองที่มาเคลื่อนไหวในประเทศไทยต่อต้านประเทศอื่่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าร่วมการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มีสื่อมวลชนต่างประเทศจากสถานีโทรทัศน์ Channel 4 ซึ่งเป็นทีวีสาธารณะของอังกฤษ มารอติดตามทำข่าวด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงภายหลังการประชุมว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องแก้ทั้ง 2 มิติทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านความมั่นคง รัฐบาลจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อเดินหน้าประเทศเข้าสู่ระยะที่ 2 หรือมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 7 การประชุมครั้งนี้ ไม่ใช่การประชุมเพื่อรับมือกับความเคลื่อนไหวของนักเรียนและนักศึกษาในสถาบันต่าง ๆ


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมเคลื่อนไหวของนักเรียนและนักศึกษาว่า ตนคิดว่าเป็นหลักการประชาธิปไตยเหมือนกับทุกประเทศ ตนเข้าใจ แม้ใครจะมองที่มาของตนว่ามาจากการรัฐประหาร แต่วันนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่เป็นประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญ ที่หากจะแก้ไขก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการในอนาคต แต่ขออย่าก้าวล่วงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน สิ่งที่กังวลคือหากมีความวุ่นวาย มากยิ่งขึ้น อาจจะมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ก็ตาม อยากให้ทุกคนมองที่อนาคตของประเทศชาติ ถ้าสถานการณ์บานปลายไปเรื่อย ๆ มีการกดดัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ สิ่งที่จะตามมาคือความไม่สงบเรียบร้อยกลับไปสู่สถานการณ์เดิมที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

“อยากให้มองว่า การแสดงออกของเด็กเป็นพลังที่บริสุทธิ์ อาจมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจและบางส่วนที่ถูกชักนำ ซึ่งข้อเรียกร้องมีมากขึ้นเรื่อย ๆ หลายข้อเป็นไปไม่ได้ แต่ทำให้เด็กมีความคาดหวัง โดยเฉพาะข้อเรียกร้องหลาย 10 ข้อ ทั้งการยกเลิกการไหว้ครู การไม่เคารพพ่อแม่ ซึ่งหากปฏิบัติตาม จะทำให้สถาบันครอบครัวและการศึกษาต้องล้มลงทั้งหมด จึงอยากขอร้องสื่อมวลชน ในการนำเสนอข่าว ขอให้ดูข้อเท็จจริง ความเป็นไปได้ และไม่เผยแพร่ข้อมูล ที่ไม่เหมาะสมซ้ำ ๆ กัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์ ความเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุม ที่มีคนมากหรือน้อย ว่า ตนให้ความสำคัญทั้งหมด เพราะเป็นประเทศไทย และหากมีคนเจตนาไม่บริสุทธิ์ ต้องการให้เกิดความรุนแรง และการเปลี่ยนแปลงที่มากยิ่งขึ้น เมื่อถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น เด็ก เยาวชนเหล่านี้ ก็จะเป็นกันชนให้กับคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ถือเป็นอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก รัฐบาลไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงกับเด็ก และไม่เคยห้ามการชุมนุมเพียงแต่การชุมนุนต้องเป็นไปอย่างสันติ ซึ่งรวมถึงการไม่กล่าวคำอาฆาตมาดร้ายหรือ คำพูดที่หยาบคายกับสถาบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย


“ขออย่านำปัญหาทุกอย่างมาพัวพันกันหมดแล้วกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่ดี อย่างข้อเรียกร้องของเยาวชน ที่ต้องการให้ทุกคนจบมามีงาน มีเงินเดือน 50,000 บาท หรือให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าผ่อนรถให้กับทุกคน เดือนละ 1,000 บาท สิ่งเหล่านี้ไม่มีทางเป็นไปได้ อยากฝากถึงครูบาอาจารย์ และนักการเมือง ที่อาจมีความคิดต่างด้วย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

จากนั้นสื่อมวลชนต่างประเทศ ถามว่าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรียืนยันว่ามีการรับฟังเสียงของเด็ก แต่บนเวทีการชุมนุมยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับฟังเสียงเรียกร้องในหลายประเด็น โดยเฉพาะข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องของสถาบัน อยากให้สื่อต่างชาติเข้าใจว่าสถาบันกับประเทศไทยมีความสัมพันธ์กันอย่างไร

“ประเด็นนี้ผมจะไม่ตอบ เพราะผมเองไม่เคยไปก้าวล่วงต่างประเทศ ไม่เคยไปสนับสนุนการเมืองที่มาเคลื่อนไหวในประเทศไทยต่อต้านประเทศอื่น ๆ ไม่เคยสนับสนุนแบบนั้น ผมต้องดำเนินนโยบายการต่างประเทศอย่างสมดุลย์
สำหรับการรับฟังความคิดเห็นของผม ไม่ใช่ว่าที่ผมไม่ได้ไป คือการที่ผมไม่ได้ฟัง ผมฟังจากข้อมูลในด้านต่าง ๆ รวมทั้งจากสื่อโซเชียล หนังสือพิมพ์ ที่มีข้อเสนอต่าง ๆออกมาจำนวนมากก็เป็นวิธีการการรับฟังอีกทางและต้องหาวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดการลุกลามบานปลาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนราชการ เอกชนและประชาชน แม้แต่นักเรียน นักศึกษา ตนรับรู้ทุกข้อเรียกร้อง แต่ขออย่างเดียวไม่อยากให้มาแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนเคารพนับถือ อย่าลืมว่าคนไทยมี 67 ล้านคน การที่มาชุมนุมอาจจะดูมากหรือน้อยแต่ตนถือว่าประชาชนส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศไม่ได้เห็นด้วยกับการชุมนุมดังกล่าว ก็ต้องเปรียบเทียบให้ดู

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ได้ขัดแย้งในเรื่องของการชุมนุม หากเป็นการชุมนุมเรียกร้องในสิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือสิ่งที่ดำเนินการให้ได้ ก็พร้อมที่จะตาม อะไรที่ไม่ได้ก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ด้วย อย่าเรียกว่านักศึกษาทั้งหมด หรือนักเรียนทั้งหมดเป็นแค่ส่วนหนึ่งในสังคม แต่ตนก็รับฟังพยายามตอบคำถามให้ได้ว่าสิ่งเหล่านี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองของเรา และเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตนต้องเดินหน้า ถ้าเอาทุกอย่างมารุมเร้า ทุกอย่างก็จะพังไปทั้งหมด และตนก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย แต่หลายคนอาจจะคาดหวัง ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

“ ผมถามว่าเขาพร้อมหรือไม่ในการที่จะเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ มันจะนำพาท่านเสื่อมลงไปทั้งหมดหรือเปล่า แล้วในวันข้างหน้าจะควบคุมกันไหวหรือไม่ ตราบใดที่ยังมีเรื่องแบบนี้ขึ้นมา วันข้างหน้าก็จะมีอีกฝ่ายเกิดขึ้น แล้วดำเนินการเช่นนี้อีกเช่นกัน ผมถามว่าแล้วประเทศไทยจะอยู่อย่างไร ก็ขอให้เคารพความเป็นอัตลักษณ์ของประเทศไทยด้วย เรามีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่คู่กับแผ่นดินเรามาหลาย 100 ปี ไม่ใช่เพิ่งมีมาเพียง 2-3 วัน สถาบันพระมหากษัตริย์ มีคุณูปการต่อประเทศไทยตลอดเวลา ขอร้องว่าอย่าลืมสิ่งที่เป็นพื้นฐานของประเทศ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากสิ่งเหล่านี้จะต้องถูกทำลาย หรือความแตกต่างของสถาบันเรากับสถาบันต่างประเทศ ทุกประเทศมีสถาบันมาตั้งแต่ก่อตั้งประเทศทั้งสิ้น แต่สถาบันของเราทำแบบประเทศอื่นหรือไม่ ต้องกลับไปทบทวนตรงนี้ เรียกร้องบางอย่างทำไม่ได้ สมมติว่าประเทศอังกฤษ มีการเรียกร้องว่าเมื่อจบการศึกษามาแล้วจะต้องมีการจ้างงานเดือนละ 50,000 เหรียญฯ จะให้ได้หรือไม่ ก็คงไม่ได้ หรืออย่างไม่ต้องไหว้ครู ประเทศไทยมีแบบและธรรมเนียมปฎิบัติมาอยู่ วันนี้พยายามสร้างว่าครูเป็นลูกจ้างของเด็ก ลูกจ้างของพ่อแม่ แต่วันนี้ลูกกับพ่อคิดเห็นไม่ตรงกัน ลูกประกาศตัดพ่อ แล้วเราจะอยู่กันอย่างนี้หรือ นี่คือจะทำให้ประเทศล่มสลาย จากนั้นก็จะเกิดจลาจล สงครามกลางเมืองต่อไป ผมไม่อยากให้ไปถึงจุดดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 4 จังหวัดรับมือฝนถล่ม จับตาเส้นทาง “พายุวิภา”

20 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 4 จังหวัดรับมือฝนถล่ม “จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา” จับตาเส้นทาง “พายุวิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน 21-22 ก.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน โดยมีศูนย์กลางอยุ่ห่างประมาณ 560 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองจ้านเจียง […]

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]