กรุงเทพฯ 4 เม.ย.- เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวเดินทางมารัสเซีย โดยเฉพาะในกรุงมอสโกและนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดใน นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 11 คน บาดเจ็บ 45 ไม่มีรายงานคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้ออกประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโกประกาศ ฉบับที่ 7/2560 ณ วันที่ 4 เมษายน 2560 เรื่อง คำเตือนเกี่ยวกับการเดินทางมาประเทศรัสเซีย และรายงานสถานการณ์เพิ่มเติม เกี่ยวกับเหตุระเบิดใน นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ว่า ตามที่ได้เกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำให้ผู้มีแผนจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่รัสเซีย โดยเฉพาะในกรุงมอสโกและนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง และใส่ใจสังเกตความเป็นไปและสิ่งผิดปกติรอบข้าง รวมทั้ง ติดตามข่าวสารจากสื่อท้องถิ่น จากเว็บไซต์ (www.thaiembassy.org/moscow) และ Facebook Page ของสถานเอกอัครราชทูตฯ (www.facebook.com/rtemoscow) เพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของตนและผู้ร่วมเดินทาง นอกจากนี้ ควรทำประกันการเดินทางทุกครั้ง เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
หากเกิดเหตุฉุกเฉิน โปรดติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทางโทรศัพท์สายด่วนของสถานเอกอัครราชทูตฯ ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลขโทรศัพท์ +7 (916) 939 2155 หรือติดต่อสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ +7 (812) 325 6271 ในวันและเวลาทำการปกติ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 21.23 น. (เวลาท้องถิ่น) มีรายงานข่าวว่า รถไฟใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เริ่มให้บริการในบางส่วนแล้ว แต่ระหว่างสถานี Sennaya Ploshchad และสถานี Technological Institute ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ยังปิดให้บริการอยู่ มาตรการการตรวจตราและรักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า-ออกสถานีรถไฟใต้ดินมีความเข้มงวดขึ้น
เมื่อเวลา 23.08 น. (เวลาท้องถิ่น) คณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซีย (National Antiterrorism Committee) ได้แถลงข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดแล้ว 11 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งกำลังรับการรักษาในโรงพยาบาล 45 คน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขรัสเซียได้ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ และการเยียวยาสภาพจิตใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติแล้ว
ทั้งนี้ ไม่ปรากฏรายชื่อบุคคลสัญชาติไทย ในรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว .- สำนักข่าวไทย