พล.อ.ประวิตร-นายกฯ ยันรัฐบาลแก้ปัญหายาเสพติดเต็มที่

รัฐสภา 20 ก.ค. – พล.อ.ประวิตร-นายกฯ ยันรัฐบาลแก้ปัญหายาเสพติดเต็มที่ ขณะเดียวกัน ติดใจชื่อยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน ติงไม่ควรใช้ ชี้ ฝ่ายค้านเป็นนั่งร้านที่ไร้หัว เพราะหัวขาด


นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ว่าสถานบำบัดยาเสพติดของรัฐบาลไม่มีความพร้อม รวมถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดมีจำนวนมากขึ้น และมองว่าการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ และไม่มีการแก้ปัญหาที่จริงจัง ขบวนการจับกุมยาเสพติดเป็นเพียงการขึ้นตำแหน่งและรางวัลนำจับของเจ้าหน้าที่ รวมถึงมีเงินทอนจากการจับกุม และมีเรื่องผลประโยชน์จากการยึดทรัพย์ยาเสพติด

โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เรื่องของยาเสพติดรัฐบาลถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นมหันตภัยร้ายแรงที่บ่อนทำลายสถาบันครอบครัว สังคมและประเทศชาติ รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องนี้อย่างมากและได้เสนอร่างพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายยาเสพติดปี 2564 โดยเน้นการบำบัดรักษา ฟื้นฟู ทั้งร่างกายและจิตใจ โดยถือว่าผู้เสพและผู้ติดนั้นเป็นผู้ป่วย ขณะที่ได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายลูกให้แล้วเสร็จ ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ไม่สามารถรอได้และได้บูรณาการทุกภาคส่วน บำบัดรักษาผู้ป่วย โดยตั้งศูนย์บำบัดเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ต่อไป


นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการจับกุมยาเสพติดอยู่ทุกวันทั้งตามชายแดน อยากให้เข้าใจถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ทำลายขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งปัจจุบันสามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ยืนยันตลอดแปดปีที่ผ่านมารัฐบาลพยามทำทุกอย่างให้ยาเสพติดลดน้อยลง

ขณะที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลนี้ ที่ต้องปราบปรามและฟื้นฟูผู้เสพ ซึ่งการลักลอบยาเสพติดที่เข้ามามาก ก็สามารถจับกุมได้มาก โดยเฉพาะตามชายแดน วันนี้สิ่งที่สำคัญคือเครื่องมือที่มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้การผลิตยาเสพติดมีต้นทุนที่ต่ำ อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไร ให้ไม่มีการไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเฉพาะมาตรการทางสังคม เจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนที่ทราบข้อมูลขอให้แจ้งข้อมูลมาโดยตรงและจะตรวจสอบให้ พร้อมกันนี้ ยืนยันรัฐบาลทำอย่างเต็มที่ ขอให้นึกถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานบริเวณชายแดนที่ดูแลทุกอย่างเต็มที่และหากคิดว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไรเลยนั้น ถือว่าคิดผิด และขอให้คิดถึงครอบครัวของเจ้าหน้าที่ด้วย

“ที่เขียนอะไรออกมา ตนพยายามที่จะระงับอารมณ์อย่างเต็มที่ คือพูดกันมาสามวัน ก็มาบอกว่ารัฐบาลใช้เวลามากเกินไป คือท่านก็จ้องที่จะเล่นงานรัฐบาลเยอะๆ รัฐบาลไม่มีโอกาสจะตอบแล้ว นั่นคือเทคติกของท่าน ผมรู้และจะใช้เวลาให้น้อยที่สุด มีอยู่คำหนึ่งที่ตนติดค้างมาตั้งแต่วันแรก ที่ท่านบอกว่า จะทำลายนั่งร้านรัฐบาลและเด็ดหัว คำพูดนี้ควรที่จะใช้ในสภาหรือทางสื่อฯหรือไม่ ตนไม่เข้าใจ วันนี้ท่านหาว่าตนนั่งอยู่ในนั่งร้าน ผมเป็นหัว ท่านก็มีนั่งร้านของท่าน แต่ท่านไม่มีหัว หัวขาดไปแล้ว” พลเอกประยุทธ์ กล่าว


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส