กรุงเทพฯ 7 ก.ย.-“มนพร” ซัดการเมืองไทยบิดเบี้ยว เป็น สส.สองปี โหวตนายกฯ มา 5 ครั้ง
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และสส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ พบปะชาวบ้าน ยืนยันจุดยืนทางการเมือง ย้ำยังยืนหยัดอยู่ข้างประชาชน พร้อมทำงานกับพรรคเพื่อไทย ไม่ยึดติดตำแหน่ง ถึงแม้ตำแหน่ง รมช.คมนาคม จะอยู่ไม่ครบวาระ แต่ยังมีหน้าที่สำคัญคือผู้แทนตลาดล่าง ในฐานะ สส.เขต 2 นครพนม พร้อมมอบสไบเบี่ยงขาว เป็นของขวัญ สร้างขวัญกำลังใจผู้สูงอายุ ในพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม หนุนเข้าวัดฟังธรรม ลดอบายมุข
นางมนพร กล่าวยืนยัน จุดยืนกับพี่น้องประชาชนว่า ขอให้พี่น้องประชาชน เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทย ตนในฐานะผู้แทน เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย พร้อมทำงานยืนหยัดเคียงข้างประชาชน เดินหน้าทำงานรับใช้ประชาชน ถึงแม้การทำหน้าที่ รมช.คมนาคม จะเปลี่ยนผ่าน แต่หน้าที่สำคัญคือ การทำหน้าที่ผู้แทนตลาดล่าง มั่นใจทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทย ทุกยุคทุกสมัย ประชาชนได้ประโยชน์ หลายโครงการยังใช้อยู่
ยอมรับว่าการเมืองไทย ปัจจุบันบิดเบี้ยว เสียงของประชาชนที่มาจากการเลือกตั้งไม่มีความหมาย ต้องมาตัดสินด้วยคนไม่กี่คน โพดโพ ช่วงทำหน้าที่ สส. เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย มาครบสองปี ได้มีโอกาสโหวต นายกรัฐมนตรี ถึง 5 ครั้ง สื่อถึงความปัญหาทางการเมืองไทย ครั้งแรก เมื่อปี 2566 เป็นการโหวตนายกคนแรก พรรคก้าวไกล ที่มีคะแนนเสียงอันดับ 1 เกิดปัญหา สว.ไม่เลือก ต้องมีการโหวต เลือกครั้งที่ 2 ไม่ผ่านอีก มาถึงครั้งที่ 3 พรรคเพื่อไทย มีคะแนนพรรคอันดับสอง จึงเสนอแคนดิเดตคือ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้นั่งนายกรัฐมนตรี แต่ทำงานปีเดียว ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินผิดจริยธรรม แต่งตั้งรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติ จากนั้นครั้งที่ 4 พรรคเพื่อไทย จึงเสนอแคนดิเดต คนที่สอง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร โหวตนั่งนายกรัฐมนตรี ทำงานได้ไม่ถึงปี ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินผิดจริยธรรม กรณีโทรศัพท์ ไปเจรจาปัญหา ชายแดนไทยกัมพูชากับฮุนเซน เจตนาคืออยากให้เกิดสันติวิธี แต่ถูกมองว่าเจตนาขายชาติ สุดท้าย ครั้งที่ 5 พรรคเพื่อไทย จึงเสนอแคนดิเดตคนสุดท้าย โหวตนายก คือ นายชัยเกษม นิติสิริ ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอคาดิเดต คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ชนะการโหวตนั่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32
นางมนพร กล่าวอีกว่า ถือเป็นการเมืองที่บิดเบี้ยว เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาจาก คสช.เมื่อปี 2560 เสียงของประชาชนส่วนมากที่มาจากการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยมีคะแนนมากกว่า 11 ล้านเสียง แต่ต้องตัดสินด้วยคนไม่กี่คน สุดท้ายได้พรรคการเมือง ที่ไม่ได้ชะนะการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาล ซ้ำร้ายพรรคประชาชน ที่เคยยืนยันไม่สนับสนุน พรรคภูมิใจไทย แต่โหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมาจาก พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย มีเงื่อนไขคือยุบสภาภายใน 4 เดือน แต่ไม่ร่วมรัฐบาล อีกทั้งยังจะมีการร่วมอภิปรายไม่ไหว้วางใจ หากพรรคภูมิใจไทย ไม่ทำตามเงื่อนไข ถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยของไทย
ถามว่า สาเหตุที่ฮุนเซน ไม่พอใจรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตนมั่นใจว่ามาจาก รัฐบาลเพื่อไทย มีนโยบายปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงนโยบายสร้าง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะเป็นการตัดเส้นทางการเงินของประเทศที่อยู่เบื้องหลัง การดูดเงินจากคนไทย เป็นที่มาของการล้มรัฐบาลเพื่อไทย โดยอาศัยช่องว่างกฎหมายรัฐธรรมนูฐ ที่บิดเบี้ยว อย่างไรก็ตามยังมั่นใจว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ไทยรักไทย มีนโยบายชัดเจน ที่เกิดประโยชน์กับประชาชน ได้ประโยชน์จริง ตั้งแต่ยุค อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เบี้ยผู้สูงอายุ กองทุนหมู่บ้าน พักชำระหนี้ แก้หนี้นอกระบบ ที่สำคัญปัจจุบันยังใช้อยู่ จึงมั่นใจพรรคเพื่อไทย ยังเป็นความหวังของประชาชน พร้อมหากจะมีการเลือกตั้งอีกรอบ เข้ามาเป็นรัฐบาลทำงานเพื่อประชาชน.-316.-สำนักข่าวไทย