ทำเนียบ 23 เม.ย.- นายกฯ กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องเฝ้าระวังและปราบปรามภัยออนไลน์ต่อเนื่อง หลังพบมิจฉาชีพเปลี่ยนรูปแบบล่าสุดหลอกเป็นนายหน้าเถื่อนหาคนไปทำงานต่างประเทศพร้อมให้เร่งขยายผลปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เตือนประชาชนรู้เท่าทันกลลวงอันตราย
วันนี้ ( 23 เม.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามการแก้ไขปัญหาประชาชนถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพในสื่อสังคมออนไลน์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประสานกับทางการประเทศเพื่อนบ้าน จับกุมผู้กระทำผิดและช่วยคนไทยซึ่งถูกหลอกให้ไปทำงานกลับมาได้ต่อเนื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ใช้ข้อมูลที่ได้จากผู้ได้รับการช่วยเหลือกลับมาเร่งขยายผลไปสู่การป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด และให้การช่วยเหลือผู้ที่ถูกหลอกไปทำงานให้กลับมาให้มากขึ้น
ทั้งนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงคนไปทำงานผิดกฎหมายนั้น มักจะมาในรูปแบบของการเปิดรับสมัครงานผ่านระบบออนไลน์ ส่วนใหญ่มักมีการโฆษณารายได้เกินจริง เพื่อให้ผู้ต้องการหางานคล้อยตาม ขาดการยั้งคิด จึงขอให้ประชาชนได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานเกี่ยวข้องให้เฝ้าติดตาม ป้องกันและปราบปรามภัยจากโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพราะกลโกงมิจฉาชีพได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้รับรายงานจากกระทรวงแรงงานว่าได้เกิดกรณีนายหน้าเถื่อนหลอกลวงผู้ที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ค ติ๊กตอก ทวิตเตอร์ ไลน์ โดยโฆษณาชักชวนผู้หางาน โดยหลอกว่าสามารถอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ได้ ซึ่งมีผู้หลงเชื่อและโอนเงินค่าดำเนินการให้กับมิจฉาชีพจำนวนมาก
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับกรณีนายหน้าเถื่อนที่กำลังระบาดในโลกออนไลน์นี้กระทรวงแรงงานได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเร่งปราบปรามผู้กระทำผิด ซึ่งกรมการจัดหางานได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้ทำผิดบางส่วนแล้ว พร้อมกับได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนทั้งในด้านการป้องกัน การปราบปรามผู้กระทำผิด และการเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศที่ถูกกฎหมายตลอดจนข้อควรระวังต่างๆ
นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนผู้ที่กำลังหางานในต่างประเทศ โดยย้ำเตือนให้มีการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้านอย่าหลงเชื่อการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์โดยง่าย ขอให้สมัครกับกรมการจัดหางาน หรือบริษัทที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กระทรวงแรงงาน www.doe.go.th/ipd สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพฯพื้นที่ 1 – 10 หรือโทรสายด่วนสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 .-สำนักข่าวไทย