ทำเนียบรัฐบาล10 มี.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ พร้อมดูแลคุณภาพชีวิตแรงงานสตรี ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ทำงานอย่างมีความสุข เดินหน้าแก้กฏหมายลาคลอดจ่ายครบ 98 วัน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายสตรีเรียกร้องนายกรัฐมนตรีให้ดูแลคุ้มครองค่าจ้างจากวันลาคลอดบุตรที่ปัจจุบันให้ลาได้ 98 วันแต่ได้รับเงินค่าจ้างเพียง 90 วันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการปรับปรุงข้อกฎหมาย เพื่อให้นายจ้างและสำนักงานประกันสังคมร่วมกันจ่ายค่าจ้างให้ครอบคลุมวันลาทั้งหมด 98 วัน มาระยะหนึ่งแล้ว ขณะนี้ กระทรวงแรงงาน อยู่ระหว่างดำเนินการให้สำนักงานประกันสังคมเสนอปรับแก้ไขกฎหมาย เพิ่มสิทธิให้กับลูกจ้าง โดยจะปรับเพิ่มประโยชน์ทดแทนให้ผู้ประกันตน จากร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 90 วัน เป็นร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 98 วัน ซึ่งจะมีผลให้ลูกจ้างได้รับค่าจ้างในวันลาเพิ่มขึ้นจากสิทธิเดิม อีก 4 วัน ในส่วนของค่าจ้างในวันลาเพื่อคลอดบุตร อีก 4 วัน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจะได้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะทำงานประเมิลผลสัมฤทธิ์กฎหมาย เพื่อปรับแก้ไข พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เพิ่มสิทธิให้กับลูกจ้างต่อไป
“รัฐบาลมุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานสตรีมาโดยตลอด รวมถึงนายกรัฐมนตรียังสนับสนุนให้สตรีได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ได้รับสิทธิประโยชน์จากการจ้างงาน มีความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ กองทุนประกันสังคม โดยเพิ่มค่าคลอดบุตรจากเดิม 13,000 บาท เพิ่มเป็น 15,000 บาทค่าสงเคราะห์บุตรจากเดิมเดือนละ 600 บาท เพิ่มเป็นเดือนละ 800 บาท ค่าฝากครรภ์ตามเกณฑ์คุณภาพ จากเดิม 1,000 บาท เพิ่มเป็น 1,500 บาท รวมทั้งการตรวจสุขภาพ ตรวจสุขภาพเต้านม ตรวจมะเร็งปากมดลูกฟรีให้แก่ผู้ประกันตนและการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคกรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อการคุ้มครองดูแลแรงงานสตรีให้เข้าถึงหลักประกันทางสังคม” นางสาวรัชดากล่าว.สำนักข่าวไทย