24 ก.พ. – “อ.สุรชาติ” ชี้สงครามรัสเซีย-ยูเครน เกิดขึ้นแล้ว แนะจับตาใกล้ชิดการสู้รบจะขยายวงกว้างกลายเป็นสงครามใหญ่ถึงขั้นบุกเข้ายึดกรุงเคียฟ เมืองหลวง ยูเครนหรือไม่
ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกองกำลังรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายในกรุงเคียฟ เมืองหลวง และหลายเมืองทั่วประเทศของยูเครน หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศสงคราม ใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในภูมิภาคดอนบัส ทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (24 ก.พ. 65) ตามเวลาท้องถิ่น ว่าสถานการณ์ในขณะนี้สามารถเรียกได้ว่าเกิดสงครามขึ้นแล้ว เพียงแต่สงครามจะใหญ่กว่านี้ หรือหยุดแค่ไหน ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูต่อกันอย่างใกล้ชิด
ดร.สุรชาติ มองว่า ผลพวงที่เกิดขึ้นในระยะไม่กี่วันนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกตกแน่ โดยเฉพาะตลาดหุ้นในยุโรปและตะวันตก สิ่งที่เริ่มเห็นชัดในไม่กี่วันเริ่มกระทบกับตลาดหุ้นในเอเชีย และถ้าสงครามเกิดต้องไม่ลืมว่าสถานการณ์โควิดในยุโรปยังไม่จบ ส่วนวิกฤติเศรษฐกิจโลกยังค้างคาอยู่กับการระบาดของโควิด และที่จะกระทบอย่างมากแน่ๆ คือวิกฤติพลังงาน เพราะจะพัวพันกับปัญหาพลังงานทั้งของรัสเซียและยุโรป ที่วันนี้ด้านหนึ่งต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย
หากประเมินความได้เปรียบเสียเปรียบของทั้ง 2 ฝ่าย ด้านของกองกำลัง ยูเครนเป็นฝ่ายด้อยกว่า ทั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องของกองกำลังอย่างเดียว เพราะปัญหาโยงมากกว่าแค่ยูเครน แต่โยงไปถึงนาโต สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาด้วย และสิ่งที่เห็นชัดตั้งแต่เหตุการณ์เกิดขึ้น ท่าทีของสหภาพยุโรปและอังกฤษ มีท่าทีค่อนข้างเป็นเอกภาพมากในการไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการหรือการเปิดปฏิบัติการของรัสเซีย
สำหรับคนไทยควรต้องติดตามดูสถานการณ์ เชื่อว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจ 2 ส่วน คือ เศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นแน่ๆ และผลกระทบกับปัญหาพลังงานโลก สำหรับยุโรปจะมีวิกฤติพลังงานเกิดขึ้นแน่ๆ พร้อมทั้งให้จับตาดูว่าสงครามหรือการรบในครั้งนี้จะขยายวงแค่ไหน เพราะถ้าขยายวงออกไปแบบไม่หยุดจะเกิดข้อกังวลขนาดใหญ่
นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ และทีมเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางโดยรถยนต์ไปยังเมืองลวีฟของยูเครน เพื่อสำรวจความพร้อมในการที่จะใช้เมืองลวีฟ เป็นฐานในการอพยพคนไทยกลับประเทศไทย หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินโดยเครื่องบิน หรือให้เดินทางเข้าโปแลนด์เพื่อเดินทางกลับ
โดยเตรียมแผนการอพยพไว้ 3 แผน คือ 1.เครื่องบินเช่าเหมาลำจากเมืองลวีฟ 2.เช่าเครื่องบินเหมาลำจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ 3.กรณีที่ไม่สามารถจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำจากเมืองลวีฟ หรือกรุงวอร์ซอได้ จะนำเครื่องจากไทยไปรับคนไทย
ล่าสุดกรมการกงสุลออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครน โดยขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยูเครน หากไม่จำเป็นในระยะนี้ โดยระบุว่า เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ได้พัฒนาความตึงเครียดในเมืองโดเนตสก์ (Donetsk) และเมืองลูฮันสก์ (Luhansk) มากขึ้นตามลำดับ “กรมการกงสุลจึงขอประกาศแจ้งเตือนขอให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว และขอให้ผู้ที่พำนักอาศัยในยูเครน ติดตามสถานการณ์และข่าวสารอย่างใกล้ชิด”
กรณีที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ (สาธารณรัฐโปแลนด์) ได้ที่หมายเลขฉุกเฉิน : +48-696-642-348 (ตลอด 24 ชม.) หรือช่องทางในการประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศต่อไป.-สำนักข่าวไทย