รัฐสภา 18 ก.พ. – “สมศักดิ์” แจงยาบ้าถูกลง เพราะนวัตกรรมผลิตแบบใหม่เทคโนโลยีสูงขึ้น ซื้อขายง่ายผ่านออนไลน์ ยันรัฐบาลเอาจริงเอาจังปราบปรามให้สิ้นซาก ใช้ประมวลกฎหมายใหม่ไล่ยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่าย พร้อมจับมือเพื่อนบ้านเร่งกวาดล้างเคร่งครัดทุกช่องทาง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อภิปรายชี้แจงว่า การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตนขอบคุณผู้อภิปรายที่ได้เสนอแนะแนวทาง แต่ตัวเลขผู้ติดยาบ้าที่มีผู้อภิปรายบอกว่ามีผู้ติดยามากถึง 3.7 ล้านคน อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน จริงๆ มีประมาณ 1.6 ล้านคน ส่วนผู้เข้ารับการบำบัดในปี 2564 มี 180,000 คนเศษ ส่วนแนวนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติด มาตรการป้องกันปราบปรามและการบำบัดรักษา เป็น 3 นโยบายหลัก รวมทั้งความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยมีกลุ่ม 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง ซึ่งใกล้ชิดแหล่งผลิตยาเสพติด คือ สามเหลี่ยมทองคำ รวมทั้งการบูรณาการงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในแต่ละปีเราใช้งบประมาณในการป้องกันและปราบปราม 6,000 ล้านบาท ตนได้ปรึกษาหารือสำนักงาน UNODC ระบุว่า มูลค่ายาเสพติดที่สามเหลี่ยมทองคำ มีมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท เราก็คิดว่าจะทำอย่างไรกับการปราบปรามตรงนี้ ตั้งแต่ตนมารับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ได้ปรึกษาผู้รู้ ทั้งผู้พิพากษา อัยการ ว่าเราจะบริหารงานอย่างไร หากเราทำไม่ถูกต้อง เราก็ต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการปราบปราม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราได้ดำเนินตามแนวนโยบายของรัฐบาล จัดทำประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ มีการแยกคดีทรัพย์ออกจากคดีอาญา และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขยายผลยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ 10 ปี และมีความร่วมมือระหว่าง ป.ป.ส. กรมสอบสวนคดีพิเศษ บช.ปส. และหน่วยงานอื่นๆ มีชุดปฏิบัติการพิเศษที่ชื่อว่า พาลีปราบยา ส่วนสาเหตุที่ยาบ้ามีราคาถูกลงนั้น เนื่องจากในอดีตสารตั้งต้นยาบ้ามาจากพืช แต่ปัจจุบันมีสารเคมีมากกว่า 12 ชนิดที่ใช้เป็นสารตั้งต้น และเครื่องจักรในการผลิตมีเทคโนโลยีที่สูงมากขึ้น รวมถึงการปล่อยสินค้าเป็นแบบเครดิต ขายก่อนแล้วค่อยเคลียร์เงินทีหลัง และความสะดวกสบายในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วย เช่น การซื้อขายผ่านออนไลน์ และทางพัสดุภัณฑ์ ทำให้ลดต้นทุน ลดคนกลาง ทำให้ขายได้มาก และรวดเร็ว
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ประเทศไทยเป็นจุดพักยาเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่สาม เพราะประเทศไทยมีภูมิศาสตร์ที่ติดกับแหล่งผลิตใหญ่ ซึ่งระบบขนส่งของไทยดีที่สุดในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เส้นทางต่างๆ เชื่อมโยงถึงกัน ตนในฐานะประธานศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการ 7 คณะ เพื่อป้องกันยาเสพติดเชิงรุกมากขึ้น เช่น ชุดที่ 1 คือ อนุกรรมการสกัดกั้นการลักลอบส่งออกและนำยาเสพติดผ่านช่องทางศุลกากร ที่ดึงศุลกากรเข้ามาร่วมทำงานเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดที่ลักลอบโดยใช้เส้นทางอากาศและทางเรือ ชุดที่ 2 คือ คณะอนุกรรมการสกัดกั้นยาเสพติด ที่มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน โดยจะเจาะลึกไปทุกภาคส่วน เช่น กรมการขนส่งทางบก การรถไฟแห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย และบริษัท ไปรษณีย์ไทย เพื่อตัดช่องทางการลำเลียงและกระบวนการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยที่ผ่านมาต่างชาติยอมรับการทำงานของประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.64 ออสเตรเลียมอบรางวัลให้กับไทย โดยนายอัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ เป็นผู้มอบ และผมเป็นตัวแทนรับมอบ
“การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ผ่านมา เราแก้ปัญหาเพียงปลายเหตุ คือ การไล่จับเม็ดยา แต่เราต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ การยึดทรัพย์ผู้บงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง ผมและรัฐบาลจึงเร่งดำเนินการผ่านประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ใช้ประโยชน์ในการยึดอายัดบัญชีผู้ค้ายา ซึ่งทำย้อนหลังได้ถึง 10 ปี ผมขอยืนยันว่า รัฐบาลนี้มุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหายาเสพติด และเชื่อว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย คือ การไล่ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดได้ถึง 10,000 ล้านบาท” นายสมศักดิ์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย