นครพนม 28 เม.ย.- นายกฯ งัดราคายาบ้าขึ้นเม็ดละ 50 บาท เป็นผลสำเร็จจากนโยบายปราบยาเสพติด เปิดช่องดึงงบกลาง จัดหาเครื่องมือสนับสนุนหน่วยปราบฯ รับมือเทคโนโลยีแก๊งค้ายา
ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวแทน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงผลสำเร็จในการปราบปรามยาเสพติดและตรวจยึดของกลาง ผ่านการบูรณาการระหว่าง หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) และหน่วยงานในพื้นที่ ว่า จังหวัดนครพนม เป็นพื้นที่ที่มีการลำเลียงยาเสพติดเพื่อเข้ามาในพื้นที่ชั้นในของประเทศมากที่สุด โดยปฏิบัติการในขณะนี้ สามารถปราบปรามยาเสพติดได้เป็นผลดี ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นผู้สนับสนุนทั้งงบประมาณ ข้อมูล และเครื่องมือในการดำเนินการ เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคล้องกับที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในที่ประชุมว่า ยาเสพติดในขณะนี้หายากขึ้น มีราคาต่อเม็ดที่สูงขึ้น จากเดิม 100 บาทได้ 5 เม็ด ขณะนี้ราคาเพิ่มขึ้น ถึงเม็ดละ 40-50 บาท แสดงให้เห็นถึงความขาดแคลน และสะท้อนว่าปฏิบัติการผ่านนโยบายซีลชายแดน 2 ชั้น (Seal Stop Safe) ที่ผ่านมาได้ผล โดย Seal หรือการสกัดกั้นนั้นได้ดำเนินการไปแล้ว ส่วน Stop ตำรวจต้องเข้าไปจับกุม และ Safe คือการนำผู้ติดยาเสพติดมาบำบัดและดูแล ซึ่งได้ทำสำเร็จในหลายพื้นที่ และดำเนินการครบวงจรแล้ว แม้ขณะนี้จะติดขัดเรื่องความล่าช้าจากระเบียบราชการ ในการจัดหาอุปกรณ์สนับสนุนเจ้าหน้าที่ แต่ได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่ออาจพิจารณาใช้งบกลาง จัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือมาใช้รับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ เพราะผู้ค้ายาเสพติดเอง ก็มีการนำเครื่องมือใหม่ ๆ มาใช้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ระบุว่า แม้การป้องกัน สกัดกั้น และปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความยาวของชายแดนไทยกว่า 900 กิโลเมตร ซึ่งมีช่องเข้าจำนวนมาก โดยเฉพาะที่จังหวัดนครพนม มี 3 – 4 จุดใหญ่ คือที่ บ้านแพง ท่าอุเทน อำเภอเมือง และอำเภอท่าพนม ซึ่งจะต้องเร่งรัดแก้ไขให้การปฏิบัติการมีประสิทธิภาพมากขึ้น-313 .-สำนักข่าวไทย