เพื่อไทยเดินหน้าตัดอำนาจส.ว.เลือกนายกฯ  

พรรคเพื่อไทย 14 ม.ค.-เพื่อไทยหนุนตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ เผย ส.ส. เตรียมเข้าชื่อเสนอร่างแก้รธน.ประกบร่างของภาคประชาชนเข้าสภาฯ  


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคและน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค ร่วมกันรับหนังสือจากคณะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี ที่นำโดย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อเชิญชวนพรรคเพื่อไทยให้ร่วมกันรณรงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์และเจตนารมณ์ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย และประกาศไว้ตั้งแต่ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งแล้วว่าจะผลักดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ  โดยเฉพาะในมาตรา 272 พรรคพื่อไทยไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกที่จะมีบทเฉพาะกาลมาตรานี้ แต่ฝ่ายที่ต้องการให้มีบทเฉพาะกาลมาตรานี้อ้างคำถามพ่วงขอความเห็นประชาชนในการทำประชามติ แล้วไปอ้างการปฏิรูปประเทศให้เกิดความต่อเนื่องเพื่อให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาเห็นชอบบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เอา ส.ว.มาเลือกนายกรัฐมนตรี ข้ออ้างนี้ฟังไม่ขึ้นตั้งแต่แรก ดังนั้น เมื่อบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ก็เห็นผลอย่างชัดเจนว่า เป็นเพียงช่องทางการสืบทอดอำนาจ แต่การปฏิรูปประเทศนั้นไม่มีความก้าวหน้าใดๆ จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของมาตรานี้


หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยินดีอย่างยิ่งที่จะร่วมรณรงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน ตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยพรรคจะสนับสนุนในทุกมิติ โดยเฉพาะการพิจารณาในวาระ 1 วาระ 2 และวาระ 3 แล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้งหมด 132 ที่นั่งจะเข้าชื่อกันเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้ไปพร้อมกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชน

“ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย มีโอกาสเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้ว 2 ครั้ง โดยในปี 2563 พรรคเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรวม 5 ร่าง ซึ่งในนั้นมีร่างยกเลิกอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี ปี 2564 พรรคเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งรวม 5 ร่าง แต่สภาบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม 4 ร่าง ซึ่งเสนอให้แก้ไขที่มานายกรัฐมนตรีและยกเลิกอำนาจ ส.ว. ด้วย ซึ่งเราไม่ย่อท้อ เจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทยสอดคล้องกับข้อเสนอของภาคประชาชน จึงจะผลักดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป และพร้อมที่จะนำข้อเสนอนี้หารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อร่วมกันสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้” นพ.ชลน่าน กล่าว 

นายชัยเกษม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นผลพวงของการรัฐประหาร ซึ่งหลังรัฐประหารผู้มีอำนาจก็ยัดเยียดให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่หากเปรียบรัฐธรรมนูญเป็นอาหารก็เป็นอาหารที่ประชาชนไม่ปรารถนา เมื่อใช้ไปก็เกิดปัญหาตลอดเวลา การเสนอให้แก้ไขมาตรา 272 ครั้งนี้จึงถือเป็นการจุดประกาย นำไปสู่การแก้ไขในอีกหลายเรื่องในอนาคต จึงเห็นว่าควรได้รับการสนับสนุนและน่าจะสามารถทำได้หากได้รับความร่วมมือจากประชาชนและส.ส.ในสภา


นายสมชัย กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้เกียรติรับหนังสือรณรงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ตัดอำนาจส.ว.เลือกนายกรัฐมนตี โดยมีจุดประสงค์สำคัญ 2 ประการคือ  1.ขอให้พรรคเพื่อไทย ที่มี ส.ส.มากที่สุดในสภา 132 คน มีฐานคะแนนเสียงของประชาชนนับ 10 ล้านคะแนน ให้ช่วยใช้กลไกของพรรคในการส่งข่าวสารถึงสมาชิกพรรคและประชาชนว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันเข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มากที่สุด ซึ่งจะรณรงค์ตั้งแต่วันที่  17 มกราคม -16 เมษายนนี้ และ 2.หากกฎหมายฉบับนี้มีโอกาสเสนอเข้าที่ประชุมสภา หวังว่าส.ส.พรรคเพื่อไทยจะอภิปรายและลงมติสนับสนุน ทั้ง 3 วาระ เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นประชาธิปไตยและได้รัฐบาลที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง

นายสมชัย กล่าวว่า การรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 นี้ เป็นการผลักดันให้แก้ไขเพียงประเด็นลดอำนาจส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีเพียงประเด็นเดียว แต่ถือเป็นหลักการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย เมื่อประชาชนเลือกส.ส.มา ส.ส.ก็ควรเป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งนานาประเทศใช้หลักการนี้ เพียงแต่ประเทศไทยบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลให้ส.ว. มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วง 5 ปีแรก โดยอ้างความจำเป็นต่อการปฏิรูปประเทศ

“วันนี้บริบทต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว การที่ส.ว.ได้รับเลือกมาจากผู้มีอำนาจบริหาร แต่นายกรัฐมนตรีคือผู้แข่งขันในการเลือกตั้ง จึงอาจทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม จึงจำเป็นต้องแก้ไขประเด็นนี้ และหากทำสำเร็จได้ทันการเลือกตั้งครั้งต่อไป ประชาชนมีโอกาสได้นายกรัฐมนตรีและผู้บริหารประเทศที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อประชาชนร่วมลงชื่อครบ 7 หมื่นรายชื่อ เราจะนำเสนอต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้บรรจุวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขทันที”  นายสมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]

“ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี”

กทม. 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี” ชี้กองทัพพร้อมประสานข้อมูลเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสา ศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่เหมาะสมเรื่องของข้อมูล และความน่าเชื่อถือ ว่า น.ส.ปนัดดา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีความสนใจในเรื่องบ้านเมือง ซึ่งข้อมูลด้านการทหารอาจจะรู้ไม่เยอะเท่ากับเจ้าหน้าที่ทหาร แต่มีความตั้งใจ อีกทั้งการเข้ามารับตำแหน่งก็เป็นการเสนอจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งต้นคิดว่าเรื่องของการได้ข้อมูล เมื่อทางทหารสนับสนุนก็จะสามารถทำงานได้ดี นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหมกัมพูชาเป็นผู้หญิง เราไม่อยากให้รู้สึกเหมือนว่าใช้โฆษกทหารที่เป็นผู้ชายไปโต้แย้ง เราอาจจะเสียเปรียบกว่า ซึ่งเห็นว่า น.ส.ปนัดดา มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลก็ให้ประสานกับกองทัพอย่างเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตรงนี้ตนคิดว่าสมน้ำสมเนื้อ เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลที่ น.ส.ปนัดดา จะพูดออกมา เป็นการกลั่นกรองมาจากทางกองทัพใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ประมาณนั้น […]