ทำเนียบ 7 ม.ค.-โฆษกรัฐบาล ชี้นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท ของ “คุณหญิงสุดารัตน์” เกิดยาก แนะส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินใช้ยามชราแทน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท พรรคไทยสร้างไทยสร้างขึ้นเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยที่ยากจนให้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี และลดภาระลูกหลานในการดูแลบุพการี ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีทำได้แน่นอนทันที พร้อมทั้งท้าให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออก ว่า ที่สุดแล้วคุณหญิงสุดารัตน์ ก็ยอมรับว่าอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่รู้สึกผิดหวังนโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท เพราะเป็นนโยบายที่เกิดขึ้นจริงได้ยาก ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการเสนอเข้ามาที่กระทรวงการคลังหลายครั้ง แต่โดยหลักการแล้วการให้เงินบำนาญประชาชนทุกคน 3,000 บาทนั้น ทำไม่ได้และไม่ควรทำ เพราะจะสร้างภาระต่องบประมาณรัฐอย่างมหาศาล
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแนะนำให้ประชาชนทุกช่วงวัยรู้จักการออมเพื่อความมั่นคงระยะยาว ซึ่งกระทรวงการคลังส่งเสริมการออมเงินในทุกกลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มแรงงานมีการออมเงินในระบบประกันสังคม ข้าราชการมีการออมเงินในกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) นอกจากนี้ยังมีการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระทุกคน และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิตในวัยเกษียณว่าจะได้รับบำนาญที่พอใช้ในวัยสูงอายุ ถือเป็นแนวทางที่รัฐบาลทั่วโลกดำเนินการ “นายกฯ ให้ความสำคัญในการบริหารประเทศและปัญหาของประชาชน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังทำงานอย่างเต็มความสามารถในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ทั้งการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด การเตรียมพร้อมระบบรักษา สถานพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ และการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 โดยคนไทย โดยในทุกสัปดาห์นายกฯ ยังนำข้อมูลสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกแจ้งให้ที่ประชุม ครม.ทราบ เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการบรรเทาความดือดร้อนประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น นายกฯ คงไม่มีเวลาไปสนใจตรวจสอบนโยบายทิพย์ที่คุณหญิงสุดารัตน์เสนอ เพราะมีแต่จะเสียเวลากับนโยบายที่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง” นายธนกร กล่าว.สำนักข่าวไทย