ทำเนียบรัฐบาล 8 พ.ย.-โฆษกรัฐบาลเตือน ส.ส.ก้าวไกลหยุดใส่ร้ายรัฐบาล ยืนยันผู้ประกอบการทุกขนาดยื่นขอมาตรฐาน SHA และ SHA+ ได้เท่าเทียม ไม่เอื้อรายใหญ่
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลระบุมาตรฐาน SHA ช้าสมชื่อ เอื้อผู้ประกอบการรายใหญ่ กีดกันผู้ประกอบการรายเล็ก ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ร้ายรัฐบาล และขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่ากระบวนการขอเครื่องหมาย SHA และ SHA+ เปิดกว้างสำหรับผู้ประกอบการทุกราย เพื่อร่วมกันยกระดับมาตรฐานภาคบริการของไทยเป้าหมายสำคัญคือการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัยแก่นักท่องเที่ยวไทย ชาวต่างประเทศและผู้ประกอบการ
“ยึดหลักแนวทางการดำเนินงานและมาตรการป้องกันความเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับสถานประกอบการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีกระบวนการสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการของไทยทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง และส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศเติบโตอย่างยั่งยืนแม้สถานการณ์โควิด-19 จะผ่านไป ล่าสุดผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการและได้รับมาตรฐาน SHA ทั่วประเทศ 22,381 ราย เป็น SHA กทม. 5,444 ราย SHA+ ทั่วประเทศ 5,290 ราย SHA+ กทม. 606 ราย แล้ว” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของ SHA มาจาก Amazing Thailand Safety & Health Administration เพื่อกระตุ้นให้สถานประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มความรัดกุมกับสินค้าและบริการ ภายใต้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 ให้ปลอดภัยและถูกต้องตามหลักสุขอนามัย โดยเป็นมาตรการที่กำหนดร่วมกันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ยกระดับมาตรการความสะอาดเพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัย โดยสามารถลงทะเบียนที่ www.thailandsha.com ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไขเกณฑ์ตรวจสอบเพื่อประเมินมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในสถานประกอบการที่กำหนดไว้ อาทิ การใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ/หมอชนะ การได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม (แบบ ร.ร.2) หรือหนังสือแจ้งการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามกฎหมายและขอให้ตรวจสอบการปรับปรุงอาคารต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 6/2562 (คสช.) หรือแบบหนังสือรับแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม (โฮมสเตย์) เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการสามารถติดต่อ ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตฯ แล้วนำมาประกอบการขึ้นทะเบียน SHA และ SHA+ ได้ต่อไป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันททท.พัฒนาระบบเว็บไซต์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งยังเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการไปติดต่อด้วยตัวเอง ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ในเวลาราชการได้ทุกวัน ขอยืนยันว่ารัฐบาลเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบลงทะเบียนขอรับ SHA และ SHA+ ได้อย่างเท่าเทียมและไม่ได้มีการกีดกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบทุกไซส์ทั้งเล็ก กลาง หรือใหญ่ไม่เอื้อใครแต่ทำเพื่อทุกคน เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยด้านสุขภาพเป็นหัวใจสำคัญ “นายกรัฐมนตรีเปิดประเทศ พร้อมยกระดับมาตรการทุกกิจการกิจกรรมให้สูงขึ้นเพื่อปกป้องชีวิตคนไทย ขณะเดียวกันส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น สิ่งที่พรรคก้าวไกลพยายามเสนอให้หย่อนระเบียบลง เช่นกรณีของมาตรฐาน SHA+ ให้กลับไปใช้ SHA อย่างเดียว เพื่อไม่ให้เป็นภาระและให้ท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะเป็นวิสัยทัศน์ระยะสั้น และจะกลายเป็นบอนไซให้ธุรกิจและผู้ประกอบการไทยไม่ได้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นสิ่งที่สวนทางกับความเป็นจริงทางธุรกิจ” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย