รัฐสภา 30 ก.ค.-“ยุทธพงศ์” ร้อง “ชวน” สอบ “เรืองไกร” ปมรถเบนซ์หรู 5 ล้านบาท หลังให้สัมภาษณ์ “ผู้ใหญ่ใจดีให้เงินซื้อรถใหม่”
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะกรรมาธิการงบประมาณฯ กรณีซื้อรถเบนซ์หรูป้ายแดง มูลค่า 5 ล้านบาทขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมาธิารงบประมาณฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144
“นายเรืองไกรถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจจัดทำโครงการ หรืออนุมัติ หรือจัดสรรงบประมาณประจำปี 65 และมีอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 รวมถึงประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องหลักเกณฑ์ การรับทรัพย์สินและผลประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าพนักงานของรัฐ พ.ศ. 2563 ผมมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายนายเรืองไกรคู่กับรถหรู พร้อมโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ที่ชื่อ “เรืองไกร สื่อใดใด” เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 ระบุว่า “ผู้ใหญ่ใจดีให้เงินซื้อรถใหม่” รวมถึงยังให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วย” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า วานนี้(29 ก.ค.) ได้ยื่นหนังสือขอให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการงบประมาณฯ และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าทีมกรรมาธิการงบประมาณฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ตรวจสอบว่าเงินสดจำนวน 5 ล้านบาท ที่นายเรืองไกรนำไปซื้อรถนั้นได้มาอย่างไร และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ หรือไม่ อีกทั้งเงินจำนวนดังกล่าวได้แจ้งธุรกรรมทางการเงินตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอื่น ๆ ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือไม่
“วันนี้ผมยื่นเรื่องต่อนายชวน ก่อนจะบรรจุการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ในวาระ 2-3 ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อป้องกันตัวเองและคณะกรรมาธิการงบประมาณอาจจะกระทำผิดละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ที่ระบุว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดจัดทำโครงการอนุมัติหรือจัดสรรเงินงบประมาณเดอะรู้ว่ามีการดำเนินการอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ถ้าได้บันทึกข้อโต้แย้งไว้เป็นหนังสือหรือมีหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ ให้ผลจากความผิด” นายยุทธพงศ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย