ยันประมูลท่ออีอีซีโปร่งใสให้รัฐสูงสุด พร้อมเดินหน้าลงนามกับกรมธนารักษ์

กรุงเทพฯ 22 ก.ย.- ซีอีโอ “วงษ์สยามก่อสร้าง” โต้ “ยุทธพงศ์” ยันประมูลท่อส่งน้ำอีอีซีโปร่งใส ย้ำชัดยื้อเวลาลงนาม รัฐเสียหายหนัก 560 ล้านบาทต่อปี ซัดเล่นเกมการเมือง เผยอีสท์วอเตอร์จ่ายส่วนแบ่งรัฐร้อยละ 1 ขณะที่ “วงษ์สยามก่อสร้าง” จ่ายให้ร้อยละ 27


นายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผู้รับสัมปทานบริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวว่า หลังจากกรมธนารักษ์เตรียมเดินหน้าเซ็นสัญญาการดำเนินโครงการท่อส่งน้ำหลักในภาคตะวันออก (อีอีซี) กับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูล หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่คุ้มครองชั่วคราว เมื่อได้รับคำร้องจากอีสท์วอเตอร์ขอให้คุ้มครองชั่วคราว ทำให้กรมธนารักษ์ชะลอลงนามในช่วงที่ผ่านมา

กรณีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ระบุมีคนสั่งการเร่งรัดลงนามสัญญาโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี และทำหนังสือถึงรักษาการนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงการคลัง อ้างรัฐจะเสียหายนั้น ยืนยันว่าการประมูลโครงการนี้เป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบราชการอย่างโปร่งใส ชัดเจน และรัฐได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อศาลปกครองกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ให้ระงับการลงนามสัญญาโครงการไว้ชั่วคราว ก่อนพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีดังกล่าว ดังนั้น จึงเลื่อนการลงนามสัญญาโครงการออกไปก่อน


เมื่อ “วงษ์สยามก่อสร้าง” ได้อุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของศาลปกครองกลาง บัดนี้ปรากฏข้อเท็จจริงแล้วว่าศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองกลาง โดยยกคำขอของผู้ฟ้องคดี ดังนั้น จึงมีเหตุอันชอบธรรมตามกฎหมาย ทำให้กรมธนารักษ์เตรียมจัดให้ลงนามในสัญญาโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี เพื่อเดินหน้าโครงการ เพราะหากไม่เป็นไปตามระยะเวลากำหนดอาจทำให้รัฐเสียหาย เนื่องจากไม่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน คิดค่าเสียหายจากการไม่ได้รับผลตอบแทนรายปี ปีที่ 1 จำนวน 122 ล้านบาท และกรมธนารักษ์ไม่ได้รับส่วนแบ่งรายได้ในปีแรกคิดเป็นค่าเสียหาย 1,228 ล้านบาท หรือเฉลี่ยคิดเป็นค่าเสียหาย 565 ล้านบาทต่อปี

นายอนุฤทธิ์ กล่าวว่า หากกรมธนารักษ์ยังให้บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์วอเตอร์ ครอบครองใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของแผ่นดินต่อไป โดยจ่ายค่าตอบแทนแบบเดิม อาจจะมีข้อครหาจากประเด็นดังกล่าวได้ว่าเป็นการให้ใช้ทรัพย์สินของแผ่นดินโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายแก่หน่วยงานรัฐ และเอื้อประโยชน์ต่ออีสท์วอเตอร์ซึ่งเป็นผู้แพ้ประมูล ในเมื่อสัญญาใหม่ อีสท์วอเตอร์จ่ายส่วนแบ่งให้รัฐเพียงร้อยละ 1 ต่อปี ขณะที่วงษ์สยามฯ จ่ายให้รัฐร้อยละ 27 ต่อปี

“เมื่อบริษัทฯ เป็นผู้ได้รับสิทธิบริหารโครงการนี้ โดยทางกรมธนารักษ์มีหนังสือแจ้งกำหนดวันลงนาม และให้บริษัทเพื่อชำระตามสัญญา 2 ครั้ง ที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการครบถ้วนทุกประการ หากนับระยะเวลาตั้งแต่ วันที่คณะกรรมการที่ราชพัสดุมีมติเห็นชอบเมื่อเดือนมีนาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน หากไม่เป็นไปตามกรอบเวลาที่กรมธนารักษ์กำหนด อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ จนไม่อาจเยียวยาได้ จึงขอย้ำว่าไม่มีใครสั่งการเร่งรัดลงนามสัญญา แต่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องชอบธรรม และศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลชั้นต้นแล้ว” นายอนุฤทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้