ห่วงแรงงานผิดกม.กระจายเชื้อ

ทำเนียบรัฐบาล 20 พ.ค.-ศบค.พบติดเชื้อใหม่ 2,636 รายตาย 25 ตลาด-แคมป์คนงานเป็นพื้นที่เสี่ยงสำคัญ ห่วงแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกระจายเชื้อ เล็งตั้งศูนย์คัดแยกผู้ป่วย ขณะที่กทม.เปิดรับทีมสอบสวนโรค ฉีดวัคซีน อาสาสมัครทั่วไป


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า วันนี้(20 พ.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,636 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,907 ราย ต่างประเทศ 58 ราย จากเรือนจำ 671 ราย เสียชีวิต 25 คน ผู้เป็นชาย 18 รายหญิง 7 ราย มีโรคประจำตัวและปัจจัยเสี่ยงจากคนในครอบครัว ในจำนวนนี้เป็นชาว กทม. 11 ราย ปทุมธานี 3 ราย เชียงใหม่ 2 ราย ลำปาง ลำพูน ยโสธร ราชบุรี เพชรบูรณ์ สระบุรี ร้อยเอ็ด นครศรี ธรรม และสมุทรปราการจังหวัดละ 1 ราย หายป่วย 2,268 ราย ผู้ป่วยอาหารหนัก 1,213 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 405 ราย ผู้ป่วยในโรงพยาบาลน้อยกว่าโรงพยาบาลสนาม นอกจากนี้มีผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว 2,540,116 โดส เป็นเข็มแรก สะสม 1,647,871 ราย เข็มที่ 2 สะสม 892,245 ราย

โฆษกศบค. กล่าวว่า ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ ติดเชื้อ 58 ราย จากสวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ตูนิเซีย มาเลเซียประเทศละ 1 ราย กัมพูชา 54 ราย ระบุอาชีพ เป็น แอดมินออนไลน์ และ 7 รายเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางเข้ามาเข้าทางช่องทางปกติ โดยจะดูแลอย่างดี สำหรับ 10 อันดับ พบผู้ป่วยรายใหม่ คือ กทม. อันดับ 1 รองลงมา เพชรบุรี นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร จันทบุรี นครปฐม และพระนครศรีอยุธยา ส่วนพื้นที่สีขาวปลอดเชื้อ 2 จังหวัดคือ ระนอง ขอนแก่น พัทลุง ยโสธรน่าน เลยแพร่ อุตรดิ ชัยนาท หนองบัวลำพู บึงกาฬและสตูล ผู้ติดเชื้อในเรือนจำกว่า 140 แห่งทั่วประเทศ พบ 671 คนวันนี้ (20 พ.ค.) อยู่ในพื้นที กทม 601 คน เชียงใหม่ 3 คน นนทบุรี51 คนและฉะเชิงเทรา 16 คน


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อในกทม. 36 คลัสเตอร์ โดยมีเขตที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุดคือเขตดินแดง ราชเทวี หลักสี่ ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองเตย บางรัก สาทร พระนคร ประเวศ บางกอกน้อย ห้วยขวาง บางเขน บางคอแหลม จุตจักร ดอนเมือง บางซื่อ บางกะปิ เขตที่ต้องเฝ้าระวัง วัฒนา สวนหลวง จตุจักร ราชเทวี ส่วนที่พบใหม่คือเขตบางพลัด ส่วนคลัสเตอร์ที่ควบคุมการระบาดได้ 8 เขต แคมป์คนงาน 50 เขต ในกทม. 409 แห่ง มีคนงานในแคมป์ 62,169 คน เป็นคนไทยกว่า 2 หมื่นคน ต่างชาติ กว่า 3 หมื่นคน และช่วงนี้แคมป์ก่อสร้างเกิดขึ้นจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะผอ.ศบค.เน้นย้ำเรื่องแคมป์คนงานว่ามีความสำคัญ ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ และต้องช่วยกันสอดส่องดูแล

“ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการระบาดในกรุงเทพ เช่นปากคลองตลาดมีผู้ค้าและแรงงานต่างด้าวในตลาดติดเชื้อเป็นกลุ่ม แผงตลาดติดกัน ตลาดมีตึกแถวให้เช่าอยู่อาศัยของแรงงานต่างด้าวลักษณะแออัด สีลม บางรักเชื่อมโยงคลาสตอร์จันทบุรีมีชางแอฟริกันหลายราย ตลาดห้วยขวางดินแดง ระบบสุขาภิบาลไม่ดี อากาศไม่ถ่ายเท ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ทำงานอยู่โซนอาคาร ตลาดบางกะปิมีความแออัด แคมป์คนงานก่อสร้างมีความแออัดคนงานใช้ห้องน้ำร่วมกันอยู่ร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวรศิลป์ กล่าวถึงมาตรการดำเนินการเฝ้าระวังในกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุดและกลุ่มเฝ้าระวัง ว่า ดำเนินมาตาการสอบสวนโรคเพิ่มและติดตามผู้สัมผัสเสียงสูงมากกับการติดตามประเมินจำนวนคนต่างด้าวในพื้นที่ เพื่อเก็บตัวอย่างเพิ่มติดตามคนงานก่อสร้างที่พักอยู่นอกแคมป์ วัคซีนให้ประชาชน ปิดตลาดทำความสะอาดสถานที่ ปิดสถานที่ที่พบผู้ป่วย ลงตรวจกลุ่มเสี่ยงคนต่างด้าวที่ทำงาน ส่วนกลุ่มคลัสเตอร์ที่พบใหม่ให้ปิดสถานที่ลงสอบสวนโรคค้นหาผู้สัมผัสเสียงสูงเพื่อวางแผนกำหนดขอบเขตการตรวจเชิงรุกต่อไป


“ศบค.แนะนำมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในตลาดอาทิ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมตลาดจัดทำบัญชีทะเบียนผู้ค้าและลูกจ้างทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อย ๆ กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างของแผง ลดความแออัด ควบคุมทางเข้าออก มีมาตรการคัดกรองอาการป่วย เพิ่มการใช้แอปพลิเคชันติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.ประมาณการมีแรงงานต่างด้าว กว่า 1ล้าน 3 แสนคน กทม. มีกว่า 5 แสนคน ส่วนที่ไม่ถูกกฎหมายมีอีกหลักล้านคนทั่วประเทศ ดังนั้น ถ้าไม่จัดการคนเหล่านี้ จะทำให้มีพฤติกรรมหลบหนี และไปอยู่กับเพื่อนแรงงานที่ถูกกฎหมายแล้วย้ายไปเรื่อย ๆ มีที่พักแออัดซึ่งจะนำไปสู่การควบคุมโรคได้ยาก คณะกรรมการที่ปรึกษา ศบค.เสนอศูนย์คัดแยกผู้ป่วยออกจากชุมชน รวมถึงมีมาตรการรองรับขยายนิรโทษกรรม ขึ้นทะเบียนเข้าสู่การจ้างงานอย่างถูกกฎหมาย

โฆษกศบค. กล่าวว่า กทม.ต้องการทีมสอบสวนโรคเพิ่มขึ้น ทั้งพยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และทีมฉีดวัคซีน แพทย์ พยาบาล และอาสาสมัครทั่วไป ผู้สนใจติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 064-8052620.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]

อัญเชิญ “พระบรมรูป ร.7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 23 ส.ค.- อัญเชิญ “พระบรมรูปรัชกาลที่ 7” องค์ใหม่ ประดิษฐานอาคารรัฐสภา ใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า สูง 7.7 เมตร ด้าน “วันนอร์” คาดแล้วเสร็จ พ.ค.69 เตรียมหารือ สนว. จัดพระราชพิธีเปิดฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมข้าราชการรัฐสภา ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าอยู่หัว องค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นประดิษฐาน หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยังระบุว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมรูป จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2569 โดยจะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปต่อไป ซึ่งวันนี้ต้องทำให้เกิดความสง่างาม รวมทั้งปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าว มีการติดตามรับผิดชอบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานกลาง […]

มท.2 พบทหารเขมรดักซุ่มเนิน 350 ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2

23 ส.ค.- กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบทหารเขมร BHQ ดักซุ่มเนิน 350 ตรวจการณ์ฝ่ายไทย ก่อนเจอทุ่นระเบิด PMN-2 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 2–3 นาย คาดว่าเป็นหน่วย BHQ เนื่องจากมีการสวมหมวกทรง FAST สีดำ และได้กระทำการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตก เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการเข้ามาฝั่งไทยประมาณ 100 เมตร ขณะเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ หน่วยได้ตรวจพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณจุดที่พบทหารกัมพูชาดักซุ่ม จำนวน 1 ทุ่น หน่วยจึงได้ใช้เครื่องตรวจทุ่น ตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด และได้ทำเครื่องหมาย เพื่อรอรับการสนับสนุนชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดดำเนินการต่อไป จากสถานการณ์ดังกล่าวยืนยันได้ว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่อธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง ทหารฝ่ายไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมปกป้องอธิปไตยของชาติ […]